“ฉันก็เป็นอย่างนี้อย่างที่เห็น”
ที่ควรเป็นเห็นเหมือนเตือนเบาะเบาะ
อย่ามาสับจับทุเรียนเปลี่ยนเป็นเงาะ
คำฉอเลาะไร้ค่าไม่น่าชม
ได้แต่นั่งฟังคำที่นำกล่าว
ล้วนแวววาวคมมีดกรีดผสม
เป็นคำปรามห้ามไว้ไม่โง่งม
ไม่หลงลมคมอำอย่านำมา
ให้สะทกสะท้อนอ่อนระโหย
ล้าแรงโรยโหยไห้ใจผวา
จำกล้ำกลืนฝืนคำจำนรรจา
หากเอ่ยมาเกรงว่าจะพาพัง
ไม่เคยคิดเปลี่ยนใจให้ใครเปลี่ยน
ไม่เคยเวียนออดอ้อนย้อนความหลัง
ไม่เคยห้ามปรามใดให้ร้างรัง
ไม่เคยหวังเกินไปไม่ประเมิน
ไม่บีบคั้นหัวใจให้สะอื้น
ไม่เคยลื่นเกินที่มีสรรเสริญ
มีแต่หวังฝากไปรักใคร่เกิน
คงเผอิญความหวังดีมีกำแพง
ได้รับรู้สิ่งเตือนที่เฉือนซ้ำ
จะจดจำใส่ใจไม่กำแหง
จะไม่ล้ำเกินเขตเจตจำแลง
จะไม่แสร้งอาลัย...ให้ใครตรม
ที่ควรเป็นเห็นเหมือนเตือนเบาะเบาะ
อย่ามาสับจับทุเรียนเปลี่ยนเป็นเงาะ
คำฉอเลาะไร้ค่าไม่น่าชม
ได้แต่นั่งฟังคำที่นำกล่าว
ล้วนแวววาวคมมีดกรีดผสม
เป็นคำปรามห้ามไว้ไม่โง่งม
ไม่หลงลมคมอำอย่านำมา
ให้สะทกสะท้อนอ่อนระโหย
ล้าแรงโรยโหยไห้ใจผวา
จำกล้ำกลืนฝืนคำจำนรรจา
หากเอ่ยมาเกรงว่าจะพาพัง
ไม่เคยคิดเปลี่ยนใจให้ใครเปลี่ยน
ไม่เคยเวียนออดอ้อนย้อนความหลัง
ไม่เคยห้ามปรามใดให้ร้างรัง
ไม่เคยหวังเกินไปไม่ประเมิน
ไม่บีบคั้นหัวใจให้สะอื้น
ไม่เคยลื่นเกินที่มีสรรเสริญ
มีแต่หวังฝากไปรักใคร่เกิน
คงเผอิญความหวังดีมีกำแพง
ได้รับรู้สิ่งเตือนที่เฉือนซ้ำ
จะจดจำใส่ใจไม่กำแหง
จะไม่ล้ำเกินเขตเจตจำแลง
จะไม่แสร้งอาลัย...ให้ใครตรม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น