หน้าแรก

วันจันทร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2559

ลาบัวเพราะกลัวพิษ


ลาบัวเพราะกลัวพิษ
(กาพย์ยานี ๑๑)
.
งามปทุมต่างรุมแล......เหลือบชะแง้แม้บึงใหญ่
เมามัวบัวบังใบ.....ใกล้กลางบึงตะลึงลาน
.
เห็นแสงแยงลอดลึก......ให้ตรองตรึกนึกสัณฐาน
เห็นบัวสองดอกบาน....ม่านยังบังหลังใบบัว
.
มองมุมตามกลุ่มแสง......งามเรื่อแดงแสงสลัว
นึกหวามให้คร้ามกลัว......ขั้วจะหลุดมุดลงโคลน
.
ผวาคราบัวเคลื่อน......แลรางเลือนเหมือนเผ่นโผน
หวาดหวั่นครั้นบัวโยน.......โดนใบบัวกลัวระคาย
.
งามเอยงามประทุม.......หลายแง่มุมสุ่มความหมาย
งามใดไม่เว้นวาย.......คล้ายงามสองของปทุม
.
อยากดอมมาห้อมห่อ.....กลัวพิษต่อเข้าส่อสุม
แมลงแย่งกันรุม......กลุ้มใจเอย..ก็เลยลา๚ะ๛
☆   ☆   ☆
♥ ♥ ♥




โยนถูก



โยนถูก
.
วิปริตแลผิดเพี้ยน.....ป่าโล่งเลี่ยนเตียนไฉน
โยนเขาเราหรือใคร......ไม่เกิดผลเพราะคนยัง
.
ภูโล้นต่างโยนถ้อย.....ผิดเต็มร้อยคนคอยสั่ง
ริมถนนล้นไม้บัง......หลังจากนั้นมันโล่งเตียน
.
บังตาพาบังจิต.....บังสนิทไม่คิดเปลี่ยน
ปี้ป่นเฝ้าวนเวียน.....เหี้ยนทั้งเขาเผาทั้งภู
.
กลิ้งเกลือกกระเสือกกระสน.....เกิดกังวลคนตายหมู่
ภัยแล้งแห้งเกรียวกรู......สู่สังคมต้องซมซาน
.
ซื้อกล้าเอามาปลูก.....ต่างรับลูกผูกสมาน
เป็นป่ากว่าช้านาน.....ผลาญจนม้วยด้วยมือใคร
.
กรมป่าข้าราชรัฐ.....หาป้องปัดบำบัดให้
บางครั้งยังเป็นใจ.....ใสตาบอดตลอดกรม
.
โทษใครต้องโทษเอ็ง.......ต่างตะเบ็งเบ่งเสียงขรม
ออกข่าวกล่าวชื่นชม......บ่มนิสัยไม่ทำลาย
.
ไม่มีสิ่งใดเหลือ......กลับโอบเอื้อเมื่อมันสาย
ถ้วนทั่วเพราะกลัวตาย......หมายพลิกฟื้นคืนป่างาม
.
โยนถูกต้องโยนคน......ผู้สับสนบนสยาม
วัวหายค่อยไล่ตาม......ความวิบัตินัดรวมพล๚ะ๛
.



วันเสาร์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2559

เสียงห่วงหา



เสียงห่วงหา
.

เฝ้าตามต่อตามติดตามคิดถึง
เฝ้าคำนึงคำนอบคำตอบแม่
ล้วนเพราะห่วงเพราะหาเพราะว่าแคร์
ล้วนไม่แปรไม่ปรับไม่ลับเลือน
.
ตามรับรู้รับรอยรับคอยห่วง
ไกลสุดช่วงสุดชมสุดข่มเฉือน
ส่งเสียงหาเสียงให้เสียงได้เยือน
ไม่บิดเบือนบิดบอกบิดนอกทาง
.
เธอมีสุขมีสวยมีรวยรื่น
เราก็ชื่นก็ชมก็สมบ้าง
เธอมีฝันมีใฝ่มีใจวาง
เราก็ต่างก็ต่อก็ก่อตาม
.
ด้วยเป็นเพื่อนเป็นพี่เป็นที่รัก
จึงปกปักปกป้องปกต้องห้าม
ด้วยหัวจิตหัวใจหัวใดงาม
มอบล้นหลามล้นเลิศล้นเทิดทูน
.
ขอเพียงเธอเพียงทางเพียงห่างเศร้า
ขอเพียงเขาเพียงใครเพียงไม่สูญ
ขอเพียงคนเพียงคำเพียงค้ำคูณ
เจิดจำรูญจำเริญจำเนิ่นนาน
.
ทางเดินมาเดินใหม่เดินให้ข้าม
ทางรักหวามรักไหวรักให้ขาน
ทางรักเก่ารักก่อนรักรอนราญ
ทางรักผ่านรักพ้น..รักตนเอง๚ะ๛
☆   ☆   ☆
♥ ♥ ♥



~@ เสียงที่ฟัง @~



~@ เสียงที่ฟัง @~
(กลบท ตรีพิธพรรณ)
.

เสียงที่ฟังที่สื่อที่ลือร่ำ
เป็นเสียงนำเสียงสั่งเสียงหลั่งไหล
เสียงเคยหวานเคยวนเคยสนใจ
วันนี้ไกลนี้กลับนี้ลับตา

เสียงได้ยินได้ฟังได้นั่งเศร้า
เสียงจากเขาจากคนจากล้นหา
ยามรักขืนรักขื่นรักอื่นพา
จึงสั่งลาสั่งดินสั่งสิ้นชม

คำใดเล่าใดเจ็บใดเหน็บเท่า
คำจากเขาจากหญิงจากสิ่งขม
พิษของคำของคนของหม่นตรม
พิษขื่นขมขื่นทรวงขื่นดวงมาน

ก่อนเคยฟังเคยชื่นเคยรื่นจิต
ก่อนชวนชิดชวนชมชวนบ่มหวาน
ก่อนรักล้นรักเร้ารักเนานาน
ก่อนสื่อสารสื่อสู่สื่อคู่เคียง

ไม่เหลือเลยเหลือซึ้งเหลือตรึงมั่น
ไม่รำพันรำพึงรำเพยเสียง
ไม่พร่ำวอนพร่ำคำพร่ำสำเนียง
ไม่ร้อยเรียงร้อยฝันร้อยวันคอย

ขอบคุณแพรคุณพริ้งคุณหญิงหวาน
ที่สื่อสารสื่อสู่สื่อผู้หงอย
เช่นห่วงหาห่วงจิตห่วงผิดรอย
เพียงคำน้อยคำซึ้ง...คำนึงนวล๚ะ๛
☆   ☆   ☆
♥ ♥ ♥



๒๓ เมษายน ๒๕๕๙

วันศุกร์ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2559

บ้านกลอนอักษรรัก


บ้านกลอนอักษรรัก
.
คำว่าบ้านขานถึงต่างตรึงจิต
แลโศภิตผูกพันสุขสันต์ที่
บ้านของเราเขาใครคนไหนมี
สุขฤดีดั่งปองสนองคุณ
.
เรามีบ้านสานฝันร่วมกันก่อ
พร้อมเพรียงพอเพื่อนคลับสนับสนุน
ตามถนัดจัดมาด้วยการุณย์
เติมเป็นทุนทางฝันของวรรณกรรม
.
มากมุมมองของรสจากบทกวี
มากท่าทีทางกลุ่มแลชุ่มฉ่ำ
มากลูกเล่นเผ่นโผนทโมนนำ
มากรสล้ำเลอล้นมากคนชิม
.
ชอบโศกเศร้าเหงาใจมีให้ซึ้ง
ชอบรำพึงเพ้อฝันก็ปันอิ่ม
ชอบหยอกล้อพอกลั้วเป็นรั้วริม
ชอบกรุ้มกริ่มกินหวานก็ซ่านทรวง
.
เป็นบ้านกลอนป้อนรักด้วยอักษร
ฟุ้งขจรเจิดแจ่มแอร่มสรวง
เป็นทำเนียบเปรียบดาวพริ้งพราวดวง
สถิตห้วงแห่งสวรรค์นิรันดร์กาล
.
เถิดเลิศล้นคนกลอนอักษรสร้าง
กี่มุมต่างต่อแดนสุดแสนหวาน
เถิดไมตรีที่คอยกว่าอ้อยตาล
กี่ขับขานเขียนสู่..คนรู้ใจ๚ะ๛
☆   ☆   ☆
♥ ♥ ♥



วันพฤหัสบดีที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2559

ไหนทางที่วางรวม


ไหนทางที่วางรวม
.
จะสมปองคล้องแขนสุดแสนยาก
กว่าเอ่ยปากเปิดฝันยิ่งหวั่นไหว
กว่าหลอมรวมสวมร่างกับบางใคร
ยากเพียงไหนหนอทางต้องถางทำ
.
ทางที่เดินเกินคดมองลดเลี้ยว
บางช่วงเปลี่ยวแปลกตาดั่งฟ้าต่ำ
บ้างแสงสวยด้วยสมอารมณ์นำ
บ้างมืดดำเดือนดับหนาวจับใจ
.
สิ่งรอบกายคล้ายล้วนเป็นมวลเหตุ
ก่อขอบเขตขวางกั้นจนหวั่นไหว
อีกช่วงกาลนานนับเกินปรับไป
หาสิ่งใดดังเผยล้วนเฉยชา
.
สิ่งที่หวังตั้งมั่นล้วนผันผก
ต่อตามตกติดตนสับสนค่า
จะหลอมวางห่างเหพังเพพา
จะโหยหาให้หวนก็ซวนเซ
.
หนี้ชีวิตบิดผันเหมือนหันห่าง
เหมือนสองต่างติดปลักเกิดหักเห
ยื้อชะตาคราครั้งเหมือนลังเล
หรือบุพเพเพียงนี้มาชี้นำ
.
ไฟลาลงคงยากถ้าหากหลอม
ไฟไม่พร้อมเพียงฝืนแสนกลืนกล้ำ
ไฟหมดเชื้อเหลือเถ้าใครเขาทำ
ไฟความจำจากฝัน..เท่านั้นแรง๚ะ๛
☆   ☆   ☆
♥ ♥ ♥



วันพุธที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2559

พิรี้พิไรด้วยใจรัก


พิรี้พิไรด้วยใจรัก
.
เรียงอักษรสะท้อนสมอารมณ์ร่ำ
เป็นถ้อยคำความหมายจากปลายฝัน
จัดลำดับขับขานแบ่งหวานปัน
จากสัมพันธ์เพรียกหาสุดาดวง
.
บทกวีนี้ใช่..หัวใจกู่
ร่ำร้องอยู่ยืนนานบนบานสรวง
โปรดซับซึ้งหนึ่งครั้งคนหวังควง
แม้เลยล่วงแลหลังคอยหวังครอง
.
อยากให้ถึงซึ่งฝันในวันใหม่
อย่าเลือนไปเป็นโสมประโลมส่อง
เพียงข้ามคืนตื่นหายเสียดายมอง
แสงเรืองรองแลหายเมื่อปลายทาง
.
ใช่ล้อเล่นเช่นถ้อยเรียงร้อยสาน
ให้สนานนำดลแล้วหม่นหมาง
ใช่ประโลมโหมคำแล้วอำพราง
ให้ครวญครางคืนคอยแล้วลอยลม
.
แต่รักเธอเลอลั่นไม่หันเห
ด้วยทุ่มเททางต่อเข้าห่อห่ม
แต่รักนุชสุดแสนอ้างแดนพรหม
ด้วยอารมณ์ร่วมเรียงหมายเคียงนวล
.
ร่ำพิไรให้เห็นประเด็นหลัก
ด้วยความรักเรียงรุกเข้าปลุกป่วน
ปรารถนาถาโถมเข้าโรมรวน
รักรัญจวนเจียนใจ..จะไหม้ลาม๚ะ๛
☆   ☆   ☆
♥ ♥ ♥



รักเพียงหนึ่งคิดถึงจัง



รักเพียงหนึ่งคิดถึงจัง
.
ความคิดถึงซึ่งแฝงตามแรงหวน
คอยคร่ำครวญเคยเห็นด้วยเป็นห่วง
แม้นบังร่างพรางตาบางคราลวง
กลับคล้ายบ่วงบังเบียดละเมียดละไม
.
บ้างปากแข็งแสร้งเสปนเปผล
เอ่ยแยบยลยืนยันหาหวั่นไหว
ความคิดถึงหนึ่งคนมากล้นใจ
หาเยื่อใยโยงถึงรำพึงพา
.
พออยู่เดียวเปลี่ยวเหงาให้เร่าร้อน
หยาดน้ำตาตกหมอนอาวรณ์หา
ต่อหน้าคนล้นแกร่งไม่แล้งลา
พอลับตาตามตรึงคิดถึงจัง
.
อยู่อย่างเหน็บเก็บกดรันทดท้อ
คิดถึงหนอหนักปากไม่อยากหวัง
ไม่บอกเขาเราปิดลิขิตบัง
น่าชิงชังช้ำชอกไม่บอกใคร
.
บอกเบาเบาเขารู้คอยสู่สม
บอกผ่านลมลอยมาผ่านฟ้าใส
บอกอินทร์พรหมยมแถนถึงแดนใด
บอกออกไปเป็นปลื้มดูดดื่มคำ
.
บอกวันนี้พี่รักเกินหักห้าม

มากคิดถึงบึ่งตามแม่งามขำ
ไวกว่าแสงแรงส่งประสงค์นำ
ถ้อยเพรียกพร่ำพร้อมพรอดอ้อนออดนวล๚ะ๛
☆   ☆   ☆
♥ ♥ ♥



ยากที่ใจ


ยากที่ใจ
♥ ♥ ♥
ไม่ยากเลยเผยบอกไม่นอกเรื่อง
ใช่คุยเขื่องเขียนคำดั่งพร่ำสอน
เพียงมีมนต์ดลสวาทไม่ขาดตอน
เสกเป่าก่อนเกริ่นกล่าวคอยน้าวใจ
.
มีรักพ้นล้นทรวงสุดห่วงหา
มีมารยายิ้มหวานยามขานไข
มีออดอ้อนวอนหนุนละมุนละไม
มีคลั่งไคล้เคียงคู่ไม่รู้เลือน
.
มีอุ่นไอไฟร้อนคอยป้อนล้น
มีน้ำอดน้ำทนไม่ปนเปื้อน
มีเพียงเขาเท่านั้นไม่ฟั่นเฟือน
มีเอ่ยเอื้อนออดอ้อนเว้าวอนคำ
.
ร่ายมนต์ตราอย่าเบื่อให้เจือสม
รักภิรมย์เริงรื่นแสนชื่นฉ่ำ
สร้างศรัทธาค่าล้นเป็นผลนำ
ต้องคอยย้ำยืนนาน รักหวานเคย
.
ยากที่ใจใครท้อไม่ต่อสาน
ยากเกินการก่อนกู่แล้วอยู่เฉย
ยากที่ผลตนหวังล้นหลั่งเลย
ยากจริงเอยยากใจดั่งไฟลน๚ะ๛
♥ ♥ ♥



วันพุธที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2559

ประทับใจในชายชาญ



ประทับใจในชายชาญ
.
กี่ม่านบังครั้งนั้นที่ฝันฝาก
กี่เหนื่อยยากยุ่งเหยิงราวเพลิงไหม้
กี่คำกลอนวอนเขียนพากเพียรไป
กี่พิไรร่ำร้องจึงมองมา
.
คนออนไลน์ใครหันล้วนผันหนี
ร้อยมากมีคนเพรียกคอยเรียกหา
ระแวงกันหวั่นหวาดกลัวพลาดพา
เห็นน้ำตาคนหลั่งให้ลังเล
.
จะหาใครไหนจริงแม่หญิงพบ
จะหาชายไหนคบกลัวจบเห่
จะรู้ใครไหนควรไม่ซวนเซ
จะไร้เล่ห์ลวงกันสัมพันธ์จริง
.
กาลเวลามากรองทั้งสองฝั่ง
แม้นอนนั่งนวลรุกมองทุกสิ่ง
ทั้งหวงห้ามตามแนบคอยแอบอิง
เธอเป็นหญิงภูไทหัวใจเดียว
.
จวบวันนี้ที่ผ่านเนิ่นนานนัก
กว่าคำ “รัก” หลุดหาเข้ามาเกี่ยว
กว่าจะรู้สู่สมจนกลมเกลียว
กว่าเธอเหลียวหน้าหมายแทบตายคา
.
อาจสัมพันธ์หันเหบุพเพสร้าง
อาจเป็นทางที่พรหมเห็นสมค่า
อาจตัวพี่มีกรรมน้อมนำพา
อาจด้วยว่าเธอหมายต้องชายชาญ๚ะ๛
☆   ☆   ☆
♥ ♥ ♥