เมื่อฟ้าไร้ฝน
.
ดินระแหงแล้งฝนคนหม่นหมอง
น้ำในคลองหนองบ่อรอแห้งขอด
แดดร้อนเผาเข้าเสริมมาเติมยอด
สองแขนสอดกอดอกสะทกท้อ
.
วิปริตผลิตผลบันดลดาล
วิปริตผิดกาลปานไฟจ่อ
วิปริตผิดแผกไยแตกกอ
วิปริตติดต่อคนก่อกรรม
.
มองทางไหนให้โหยเสียงโอยโอด
ฟ้าลงโทษโกรธใครไม่ชุ่มฉ่ำ
คนบนดินสิ้นไร้ใครใจดำ
ทุกข์กระหน่ำย่ำแย่ใครแลมอง
.
คนมั่งมีชี้ทางอย่างรันทด
ให้ออมอดลดลาอย่าเศร้าหมอง
ให้อดทนบนทุกข์ที่รุกกอง
อย่าร่ำร้องฟ้องขอต่อเทวา
.
คนมีกินกลิ่นเศร้าเขาเบือนหนี
ไม่ใยดีที่คนเขาบ่นหา
ช่างหมองหม่นคนเศร้าเราประชา
อาศัยฟ้า ฟ้ายังไม่หลั่งโลม
.
กว่าจะผ่านด่านเศร้าคงเผาผล
ไหม้หมองหม่นบนร่างอย่างถาโถม
เวทนาผ่าทางอย่างเสื่อมโทรม
ครึกครึกโครมโหมเพียง สำเนียงฟ้า..
.....แต่ไร้ฝน....
.
.
ดินระแหงแล้งฝนคนหม่นหมอง
น้ำในคลองหนองบ่อรอแห้งขอด
แดดร้อนเผาเข้าเสริมมาเติมยอด
สองแขนสอดกอดอกสะทกท้อ
.
วิปริตผลิตผลบันดลดาล
วิปริตผิดกาลปานไฟจ่อ
วิปริตผิดแผกไยแตกกอ
วิปริตติดต่อคนก่อกรรม
.
มองทางไหนให้โหยเสียงโอยโอด
ฟ้าลงโทษโกรธใครไม่ชุ่มฉ่ำ
คนบนดินสิ้นไร้ใครใจดำ
ทุกข์กระหน่ำย่ำแย่ใครแลมอง
.
คนมั่งมีชี้ทางอย่างรันทด
ให้ออมอดลดลาอย่าเศร้าหมอง
ให้อดทนบนทุกข์ที่รุกกอง
อย่าร่ำร้องฟ้องขอต่อเทวา
.
คนมีกินกลิ่นเศร้าเขาเบือนหนี
ไม่ใยดีที่คนเขาบ่นหา
ช่างหมองหม่นคนเศร้าเราประชา
อาศัยฟ้า ฟ้ายังไม่หลั่งโลม
.
กว่าจะผ่านด่านเศร้าคงเผาผล
ไหม้หมองหม่นบนร่างอย่างถาโถม
เวทนาผ่าทางอย่างเสื่อมโทรม
ครึกครึกโครมโหมเพียง สำเนียงฟ้า..
.....แต่ไร้ฝน....
.
บ้านริมโขง
๕ กรกฎาคา ๒๕๕๘
๕ กรกฎาคา ๒๕๕๘
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น