สองตามองส่องไสวได้เห็นเท่า
แต่ใครเล่าเข้าถึงซึ่งแสงสี
แล้วแต่ใครเห็นค่าว่าภาพดี
มโนนึกเช่นนี้..ที่ต่างกัน
เกินบังคับเค้นใครให้เห็นเท่า
จิตของเขาเข้าเสริมเติมเสกสรร
รู้ด้วยตนบนปัญญาพาจำนรรจ์
ปรับเปลี่ยนผันตามสื่อคืออารมณ์
สิ่งที่เห็นต่างกันนั้นใช่แน่
ต่างก็แปรเปรอปรนบนสุขสม
อาจไม่เหมือนดั่งใครหวังใจชม
เลยไม่เห็นหนึ่งปมที่คมคาย
แม้นมุ่งหวังสั่งชี้สิ่งที่เห็น
ว่าโดดเด่นเป็นหลักที่ปักหมาย
ก็ยังมีอื่นมองจ้องเลยกราย
ใช่เห็นคล้ายดั่งชี้ที่ให้มอง
จึงต่างคนต่างเห็นเช่นต่างจิต
จึงต่างคนต่างคิดติดสนอง
จึงต่างคนต่างรู้สู่ทำนอง
จึงต่างคนต่างปองฉลองกรรม
สิ่งที่เห็นหาใช่ที่ใครเห็น
นั้นเพราะเป็นปัญญาพาถลำ
ผู้รู้มากยากเหลือเชื่อใครนำ
ผู้รู้ต่ำช้ำเหลือ..เมื่อถูกลวง..
แต่ใครเล่าเข้าถึงซึ่งแสงสี
แล้วแต่ใครเห็นค่าว่าภาพดี
มโนนึกเช่นนี้..ที่ต่างกัน
เกินบังคับเค้นใครให้เห็นเท่า
จิตของเขาเข้าเสริมเติมเสกสรร
รู้ด้วยตนบนปัญญาพาจำนรรจ์
ปรับเปลี่ยนผันตามสื่อคืออารมณ์
สิ่งที่เห็นต่างกันนั้นใช่แน่
ต่างก็แปรเปรอปรนบนสุขสม
อาจไม่เหมือนดั่งใครหวังใจชม
เลยไม่เห็นหนึ่งปมที่คมคาย
แม้นมุ่งหวังสั่งชี้สิ่งที่เห็น
ว่าโดดเด่นเป็นหลักที่ปักหมาย
ก็ยังมีอื่นมองจ้องเลยกราย
ใช่เห็นคล้ายดั่งชี้ที่ให้มอง
จึงต่างคนต่างเห็นเช่นต่างจิต
จึงต่างคนต่างคิดติดสนอง
จึงต่างคนต่างรู้สู่ทำนอง
จึงต่างคนต่างปองฉลองกรรม
สิ่งที่เห็นหาใช่ที่ใครเห็น
นั้นเพราะเป็นปัญญาพาถลำ
ผู้รู้มากยากเหลือเชื่อใครนำ
ผู้รู้ต่ำช้ำเหลือ..เมื่อถูกลวง..
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น