เหมือนก่อไฟใส่ฟืนที่ชื้นดิบ
มันเงียบกริบแรงไฟในปรารถนา
มันไร้ผลตนก่อรอเวลา
เหมือนดั่งว่าสิ้นหวังคนนั่งคอย
บางคราครั้งนั่งงงดั่งหลงทิศ
ความนึกคิดขาดห้วงดวงใจหงอย
ไร้สัมผัสจัดเตือนอย่างเลื่อนลอย
ความกลัวคอยคลุมครอบเป็นกรอบกัน
ไม่รู้หมายปลายประสงค์คอยบ่งบอก
ใดเปื้อนปอกให้ตัดและคัดสรร
เป็นดังเงาจากแสงสำแดงพลัน
สิ่งเหล่านั้นไร้สิ้นทั้งกลิ่นอาย
ใจไม่หลับกลับวุ่นดั่งหมุนคว้าง
เหมือนสิ้นทางวางเร้าสู่เป้าหมาย
ความคิดอ่านอ่อนเพลียอย่างเสียดาย
ดั่งนั่งรอวันวายถึงปลายทาง
เป็นอะไรใจนี้เคยมีฝัน
ทุกคืนวันเริงรื่นชื่นทุกอย่าง
มองสังคมพรมสุขทุกก้าววาง
บัดนี้ต่างแตกดับกับเกินรับฟัง
สิ่งสะท้อนสังคมมาถมทับ
เกินจะนับจับตามตั้งความหวัง
สิ่งยึดเหนี่ยวเกลียวขาดอนาถจัง
เกินจะยั้งรั้งคืน..มาชื่นชม.
มันเงียบกริบแรงไฟในปรารถนา
มันไร้ผลตนก่อรอเวลา
เหมือนดั่งว่าสิ้นหวังคนนั่งคอย
บางคราครั้งนั่งงงดั่งหลงทิศ
ความนึกคิดขาดห้วงดวงใจหงอย
ไร้สัมผัสจัดเตือนอย่างเลื่อนลอย
ความกลัวคอยคลุมครอบเป็นกรอบกัน
ไม่รู้หมายปลายประสงค์คอยบ่งบอก
ใดเปื้อนปอกให้ตัดและคัดสรร
เป็นดังเงาจากแสงสำแดงพลัน
สิ่งเหล่านั้นไร้สิ้นทั้งกลิ่นอาย
ใจไม่หลับกลับวุ่นดั่งหมุนคว้าง
เหมือนสิ้นทางวางเร้าสู่เป้าหมาย
ความคิดอ่านอ่อนเพลียอย่างเสียดาย
ดั่งนั่งรอวันวายถึงปลายทาง
เป็นอะไรใจนี้เคยมีฝัน
ทุกคืนวันเริงรื่นชื่นทุกอย่าง
มองสังคมพรมสุขทุกก้าววาง
บัดนี้ต่างแตกดับกับเกินรับฟัง
สิ่งสะท้อนสังคมมาถมทับ
เกินจะนับจับตามตั้งความหวัง
สิ่งยึดเหนี่ยวเกลียวขาดอนาถจัง
เกินจะยั้งรั้งคืน..มาชื่นชม.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น