..ยิ้มจึงไหวใจจึงเปลี่ยน..
ยิ้ม..ในทรวงห่วงถึงรำพึงฝาก
ยิ้มคราพรากจากกันจำนรรจ์เสียง
ยิ้มเกลื่อนหน้าพาชื่นรื่นร้อยเรียง
ยิ้มหวังเคียงเพียงหมายคล้ายฝันไป
จึง..เพียงยิ้มพริ้มรับคำขับขาน
จึงเพียงสานสู่สองมองหวั่นไหว
จึงเพียงเอื้อเผื่อพลาดหากบาดใจ
จึงเพียงใครสู่สมนิยมคำ
ไหว..หวั่นตนทนหมองยามต้องจาก
ไหวหวั่นมากหากรักจักถลำ
ไหวหวั่นจนทนท้อรอระกำ
ไหวหวั่นทำจำลาน้ำตานอง
ใจ..เจ้าเอยไฉนเลยไม่เคยชื่น
ใจขมขื่นกลืนช้ำระกำหมอง
ใจรอคอยหงอยเหงายังเฝ้าปอง
ใจร่ำร้องครองคู่หวังอยู่เคียง
จึง..ตั้งตาพาฝันมั่นเสมอ
จึงพร่ำเพ้อเธอฉันรำพันเสียง
จึงรอคอยรอยทางวางมองเมียง
จึงร้อยเรียงเพียงกานท์ผสานใจ
เปลี่ยน..เวียนวนจนหวั่นวันคอยคู่
เปลี่ยนฤดูสู่ฤดีที่หวามไหว
เปลี่ยนคืนวันผันผ่านม่านวิไล
เปลี่ยนอย่างไรใจยังเปลี่ยว..แสนเดียวดาย.
ยิ้มคราพรากจากกันจำนรรจ์เสียง
ยิ้มเกลื่อนหน้าพาชื่นรื่นร้อยเรียง
ยิ้มหวังเคียงเพียงหมายคล้ายฝันไป
จึง..เพียงยิ้มพริ้มรับคำขับขาน
จึงเพียงสานสู่สองมองหวั่นไหว
จึงเพียงเอื้อเผื่อพลาดหากบาดใจ
จึงเพียงใครสู่สมนิยมคำ
ไหว..หวั่นตนทนหมองยามต้องจาก
ไหวหวั่นมากหากรักจักถลำ
ไหวหวั่นจนทนท้อรอระกำ
ไหวหวั่นทำจำลาน้ำตานอง
ใจ..เจ้าเอยไฉนเลยไม่เคยชื่น
ใจขมขื่นกลืนช้ำระกำหมอง
ใจรอคอยหงอยเหงายังเฝ้าปอง
ใจร่ำร้องครองคู่หวังอยู่เคียง
จึง..ตั้งตาพาฝันมั่นเสมอ
จึงพร่ำเพ้อเธอฉันรำพันเสียง
จึงรอคอยรอยทางวางมองเมียง
จึงร้อยเรียงเพียงกานท์ผสานใจ
เปลี่ยน..เวียนวนจนหวั่นวันคอยคู่
เปลี่ยนฤดูสู่ฤดีที่หวามไหว
เปลี่ยนคืนวันผันผ่านม่านวิไล
เปลี่ยนอย่างไรใจยังเปลี่ยว..แสนเดียวดาย.
บ้านริมโขง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น