หน้าแรก

วันศุกร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

รอเราเฝ้ารัก





รอเราเฝ้ารัก
.
มีความสุข ปลุกปลอบใจ ปลอบให้มั่น
มีความฝัน ฝากความว่า อย่าวางเฉย
มีความรัก ปักกลางทรวง กลางใจเอย
มีความเคย คอยห่วงหา พาห่วงชม
.
ค่ำคืนใด ไม่เห็นหน้า เห็นฟ้ามืด
ค่ำคืนจืด จับดวงจิต ติดใจขม
ค่ำคืนนั้น ฝันเปลี่ยวปร่า เปลี่ยวอารมณ์
ค่ำคืนตรม ตามเติมตน จนต้องครวญ
.
คิดถึงเอย เผยอาลัย อาวรณ์หา
คิดถึงครา เคยรำพัน รำพึงหวน
คิดถึงเขา เราถึงเพ้อ ถึงเพียงนวล
คิดถึงล้วน เริ่มรู้ค่า ว่าควรรัก
.
ไกลฟากฟ้า พาเฝ้าเหม่อ เฝ้าเพ้อถึง
ไกลฟากหนึ่ง นั้นเหหวน ชวนเหหัก
ไกลฟากฝัน พลันหวั่นไหว หวั่นใจนัก
ไกลฟากตัก ต้องห่วงอิง ยิ่งอาวรณ์
.
อยากอยู่เคียง เรียงข้างนวล ข้างชวนชิด
อยากอยู่ติด ต่อตามเสริม เติมสุขสอน
อยากอยู่ด้วย ช่วยเอื้ออุ่น เอื้อสุนทร
อยากอยู่ย้อน ย้ำความหวัง ครั้งหวานเรา
.
รอรักเอย เผยบอกที บอกที่หวัง
รอรักยัง ยืนยงอยู่ ดูยังเหงา
รอรักเหลือ เมื่อไกลกัน ไกลกั้นเงา
รอรักเฝ้า ฝากหวานคำ พร่ำคอยนวล๚ะ๛
☆✾☆

กลบทจตุรงคประดับ
จากตำรากลบท ศิริวิบุลกิตติ์ของหลวงศรีปรีชา (เซ่ง)
.
การแต่ง : เขียนเป็นกลอนเก้า
ให้นำคำ “สองคำ” มาเป็นกระทู้ยืนในบทนั้น
แล้วเปลี่ยนกระทู้ยืนเป็นซ้ำคำอื่นสองคำเช่นนี้เรื่อยไป
จนจบเนื้อความที่ต้องการแต่ง
ในวรรคที่ ๑ และ ๓ ให้มีสัมผัสสระชิดระหว่างช่วงแรกกับช่วงกลาง
และ คำที่ ๕ กับ ๗ เป็นคำซ้ำกัน ,
ในวรรคที่ ๒ และ ๔ ให้คำที่ ๖ และ ๘ สัมผัสอักษรกัน
.
บ้านริมโขง
 
 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น