ให้สติผลิบานบันดาลใจ
.
นิ่งที่ใจใดขยับล้วนรับรู้
นิ่งที่ใจใดอยู่สู่ที่หมาย
นิ่งที่ใจไม่ร้อนดูผ่อนคลาย
นิ่งที่ใจใดร้ายคล้ายรู้ตัว
.
เกราะป้องกันวันเวียนปรับเปลี่ยนผล
คือใจตนบนสติไม่ปริรั่ว
หลีกหลบภัยใดเร้าไม่เมามัว
ไม่ขลาดกลัวรั้วรอบเป็นขอบกัน
.
อารมณ์ใดไหนรุกถูกซุกกลับ
ถูกขบขับดับไปไม่สังสรรค์
ตราบยังครองของสติดำริพลัน
ใจไม่ดั้นฟันฝ่าพาติดตม
.
สำนึกรู้ผู้ใดคนไหนรัก
แจ้งประจักษ์ปักผลคนไหนขม
ช่วยล้างจิตบิดผันอันโสมม
ใดคือลมคมคำที่ร่ำไร
.
พึงรักษาค่าควรหวนสนอง
สติครองป้องพาหาหวั่นไหว
นำจิตถึงซึ่งฝั่งวังวิไล
แสงร่ำไรในอรุณหนุนโสภา
.
เมื่อความรักหักเหบุพเพเพี้ยน
ความแปรเปลี่ยนเวียนเฝ้าวิ่งเข้าหา
หลากผลกรรมนำสู่ดูลานตา
โถมทับมาคราเผลอจนเอ่อนอง
.
ไม่ใบ้บ้าถ้าพลาดที่อาจเกิด
ไม่เลยเถิดเปิดพิษติดสนอง
ไม่ถึงตายหมายฆ่าสาใจปอง
ไม่จำต้องร้องฟ้า เมตตาตน
.
.
นิ่งที่ใจใดขยับล้วนรับรู้
นิ่งที่ใจใดอยู่สู่ที่หมาย
นิ่งที่ใจไม่ร้อนดูผ่อนคลาย
นิ่งที่ใจใดร้ายคล้ายรู้ตัว
.
เกราะป้องกันวันเวียนปรับเปลี่ยนผล
คือใจตนบนสติไม่ปริรั่ว
หลีกหลบภัยใดเร้าไม่เมามัว
ไม่ขลาดกลัวรั้วรอบเป็นขอบกัน
.
อารมณ์ใดไหนรุกถูกซุกกลับ
ถูกขบขับดับไปไม่สังสรรค์
ตราบยังครองของสติดำริพลัน
ใจไม่ดั้นฟันฝ่าพาติดตม
.
สำนึกรู้ผู้ใดคนไหนรัก
แจ้งประจักษ์ปักผลคนไหนขม
ช่วยล้างจิตบิดผันอันโสมม
ใดคือลมคมคำที่ร่ำไร
.
พึงรักษาค่าควรหวนสนอง
สติครองป้องพาหาหวั่นไหว
นำจิตถึงซึ่งฝั่งวังวิไล
แสงร่ำไรในอรุณหนุนโสภา
.
เมื่อความรักหักเหบุพเพเพี้ยน
ความแปรเปลี่ยนเวียนเฝ้าวิ่งเข้าหา
หลากผลกรรมนำสู่ดูลานตา
โถมทับมาคราเผลอจนเอ่อนอง
.
ไม่ใบ้บ้าถ้าพลาดที่อาจเกิด
ไม่เลยเถิดเปิดพิษติดสนอง
ไม่ถึงตายหมายฆ่าสาใจปอง
ไม่จำต้องร้องฟ้า เมตตาตน
.
๒๖ กันยายน ๒๕๕๘
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น