หน้าแรก

วันอังคารที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

สุขสันต์วันวิวาห์


สุขสันต์วันวิวาห์

ช. ใกล้ถึงซึ่งหนึ่งวันที่ฝันใฝ่
จากดวงใจจับจินต์ถวิลหา
ใกล้ถึงปลายสายทางที่ย่างมา
ใกล้ถึงวันวิวาห์แล้วหนานวล
.
ญ. แสนหวั่นไหวใจนางในบางครั้ง
ความกลัวหลั่งล้นหลามทุกยามหวน
อกสะท้านมานสะท้อนอาวรณ์ชวน
ยังปั่นป่วนปิ้มว่าละล้าละรัง
.
ช. จะป่วนไปใยเล่าให้เศร้าสิง
ซบอกอิงเอียงกายข้างชายนั่ง
จะสอนทางวางท่าทุกคราฟัง
ยินหรือยัง..อย่างนี้ยามพี่วอน
.
ญ. อุ๊ย..อย่างไรไหนกันสัมพันธ์สวาท
กลัวพลั้งพลาดเพียงทีอย่างพี่สอน
น้องยังกลัวตัวสั่นในขั้นตอน
อย่ารีบร้อนเร่งเร้ายามเข้างาน
.
ช. โอ้..คนดีพี่พร้อมถนอมเนื้อ
รักล้นเหลือเลยล้อมทั้งหอมหวาน
จะประคองคล้องนำแสนสำราญ
จูบเป็นการก่อนเกริ่นเข้าเชิญชวน
.
ช - ญ. จริงหรือนี่ที่เริ่มต่อเติมฝัน
สู่สุขสันต์สองสมอารมณ์หวน
สองคล้องแขนแฟนฉันแสนรัญจวน
ครองคู่นวลแนบเนื้อ..เหลือบรรยาย๚ะ๛
☆   ☆   ☆
♥ ♥
 ♥



บทกวีที่รอคอย


บทกวีที่รอคอย
.
หลงเธอหลงยิ่งแล้ว................คนดี
หลงผ่านหวานเกินมี.................เอ่ยอ้อน
หลงนวลป่วนมาที.............ไหวหวั่น จริงนา
หลงดั่งฟอนไฟร้อน.............เร่งเร้าเรือนกาย
.
หมายปองครองคู่เจ้า........นวลนาง
หมายมั่นสรรเสริมทาง.......ต่อแต้ม
หมายใจไม่เลือนราง........หวานต่อ ลออเอย
หมายห่มชมพวงแก้ม......ห่อห้อมหอมนาน
.
ขานลำนำฉ่ำล้น........เนืองนอง นางเอย
เติมต่อขอสมปอง....................กล่าวย้ำ
สารเสียงสื่อคือทอง.............กองก่อ รอเกย
กานท์หว่านเกินหวานล้ำ.....พร่ำพร้อมเพียงนวล
.
หวนหาหอแห่งห้อง........ครองเรือน เรานา
หวนห่อรอนางเยือน....................สู่เหย้า
หวนหวงห่วงรางเลือน......เกินก่อ นางเอย
หวนห่มสมใจเฝ้า...............เท่านั้นวันรอ๚ะ๛
☆   ☆   ☆
♥ ♥



ฝ่าสวรรค์ด้วยมั่นใจ


ฝ่าสวรรค์ด้วยมั่นใจ
.
สรวงสวรรค์นั้นใครต่างใฝ่ถึง
ด้วยซาบซึ้งส่วนเสริมที่เติมสม
จากคำเล่าเขาอื่นอย่างชื่นชม
ถ้อยคารมรวมเรื่องอันเลื่องลือ
.
คำพระท่านขานขั้นสวรรค์ไหน
อยู่ที่ใจเจ้ากรรมที่นำถือ
ใจเป็นสุขทุกสถานวิมานคือ..
สวรรค์ยื้อโยงนำคอยค้ำบุญ
.
จึงอยู่ไหนไกลใกล้ล้วนไม่ต่าง
สวรรค์ห่างหายหนเพราะคนหนุน
กรรมเกิดก่อต่อตามทวงถามคุณ
เฝ้าเจือจุนจับจดคอยทดแทน
.
เบี่ยงสวรรค์นั้นเบี่ยงเราเลี่ยงหลบ
ความสงบงามทางกระจ่างแสน
ปรับใจจริงนิ่งสนิทไม่ผิดแดน
มวลเมืองแมนมองสถานใช่บ้านคน
.
เพียงเพ้อไปในนั้นสวรรค์สุข
หากเราทุกข์ทางใจจวนไหม้หม่น
จะกี่ชั้นสวรรค์เสริมเข้าเติมตน
สุขใดหล่นลงถึงกลางกึ่งใจ
.
เบี่ยงสวรรค์นั้นเราผู้เข้าเบี่ยง
เราเลยเลี่ยงหลงทางกระจ่างใส
เบี่ยงอีกครั้งตั้งเรียงคล้อยเคียงไป
มุ่งฝันใฝ่ฝ่าฟันสวรรค์ครอง๚ะ๛



ร้อยรักเรียง


ร้อยรักเรียง
.
มองเมียด้วยสวยสมอารมณ์ผวา
มองเมียข้าฯ ขานครับคอยขับเคี่ยว
มองเมียเขาเร้าใจวิไลเชียว
มองเมียเหลียวหลาบจำเธอสำทับ
.
เมียมองมาคราใดหัวใจกระตุก
เมียมองมุกมากมีวจีขับ
เมียมองหมดขดไส้ดั่งไฟทับ
เมียมองปั๊บเป็นกราบรับทราบคำ
.
ต้องตามสั่งดังลั่นเสียงครั่นครืน
ต้องตามตื่นตามไก่ต้องใจปล้ำ
ต้องตามติดอิดออดเป็นตอดตำ
ต้องตามย้ำโยกโย้เดี๋ยวโกรธา
.
ห้ามเหลียวซ้ายป่ายขวาแลหน้าหลัง
ห้ามเหลียวฟังฟากนั้นห้ามหันหน้า
ห้ามเหลียวสาวคราวรุ่นเดี๋ยวฉุนคา
ห้ามเหลียวหาให้ท่องอย่าลองใจ
.
เกี่ยวก้อยเมียเคลียคลออย่าข้อหลุด
เกี่ยวก้อยฉุดเฉิดฉันท์สัมพันธ์ใฝ่
เกี่ยวก้อยนางอย่างเดียวอย่าเกี่ยวใคร
เกี่ยวก้อยไปเป็นแฟนว่าแสนรู้
.
ร้อยรักเรียงเสียงสร้อยเธอคอยสั่ง
ร้อยรักดั่งเดือนดาวที่พราวหรู
ร้อยรักเธอเลอเลิศต้องเชิดชู
ร้อยรักอยู่อย่างนี้..ห้ามหนีงาน๚ะ๛
☆   ☆   ☆


กลบท จตุรงคประดับ

มีการบังคับให้นำคำ “สองคำ” มาเป็นกระทู้ยืนเฉพาะ ๔ วรรค
คือนำคำสองคำมาไว้ต้นวรรค ๔ วรรค แล้วเปลี่ยนกระทู้ยืนเป็นคำอื่น อีก ๔ วรรค
แต่งเช่นนี้เรื่อยไป จนจบเนื้อความที่ต้องการแต่ง
.



กลอนสักวา



สักวาฝนพรำทุกค่ำเช้า
ลมรินเร้าเริงร่ายฝ่าสายฝน
สลัวแสงแฝงเหงารุมเร้าคน
สู้อดทนทอดถอนอาวรณ์วาง
นอนทอดกายคล้ายแกล้งไร้แรงก้าว
เหมือนกายหนาวหน่วงขั้วมืดมัวข้าง
ละเหี่ยห้อมล้อมตัวสลัวราง
คิดถึงนางหนึ่งนี้..คนดีเอย..
☆   ☆



วันศุกร์ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

ฝึกใจไม่ฝึกคน


ฝึกใจไม่ฝึกคน
.
ไม่สำคัญนั้นจิตไม่คิดข้อง
ไม่สำคัญควรต้องหวังปองผล
ไม่สำคัญนั้นดังไม่กังวล
ไม่สำคัญคือพ้นไม่ลนลาน
.
ตัวเราหวังยังตนไม่หม่นหมอง
ตัวเราปองเปี่ยมรักสมัครสมาน
ตัวเราปลดลดลาในอาการ
ตัวเราผ่านผันผละให้อภัย
.
จึงเลิกจ้องมองอื่นว่าขืนขัด
จึงเลิกคัดค่าคนสับสนไหม
จึงเลิกจับนับผิดมิติดใจ
จึงเลิกไปเป็นปล่อยเลิกคอยคุม
.
เพียงตัวเราเท่านั้นมุ่งมั่นหมาย
เพียงใจกายเก็บกกไม่ตกหลุม
เพียงกังวลตนเองต้องเคร่งคลุม
เพียงเกาะกุมกรรมก่อให้พอควร
.
ฝึกที่ตนคนอื่นไม่ฝืนฝาก
ฝึกคนมากมีแนวรอยแมวข่วน
ฝึกคนพาลสานเสมากเรรวน
ฝึกใครล้วนลามลำระกำใจ
.
แม้แต่ธรรมนำวางก็ต่างแย้ง
แม้แต่แสงสื่อแซมบ้างแจ่มใส
แม้แต่สุขทุกข์เหิมยังเสริมไป
แม้อะไรเราชื่น ยังขื่นทรวง๚ะ๛
.




อนิจจังอนิจจา


อนิจจังอนิจจา
.
รู้บ้านร้อนตอนตะวันได้ปันแสง
รู้แดดแรงเร่งรุกละหุกละเหิน
รู้ยามค่ำฉ่ำลมพลิ้วพรมเพลิน
รู้ร่วมเดินด้วยกันสัมพันธ์มี
.
ความเปลี่ยนแปรแผ่ผลให้คนรับ
ต้องเตรียมปรับเปลี่ยนปลุกให้สุขี
ความผกผันปั้นค่าทุกนาที
ต้องยินดีด้วยรู้ไม่วู่วาม
.
ดั่งสุขทุกข์คลุกเคล้าใช่เหมาข้าง
ดีเพียงอย่างยอมปล่อยให้ลอยข้าม
เสียอีกฝั่งคลั่งแค้นสุดแสนทราม
ไม่สมนามวัฎฎะที่คละรวม
.
จึงผกผันวันชื่นถึงขื่นขม
จึงมีตรมเติมต่อไว้รอสวม
จึงรักแล้วแผ่วคำบ้างกำกวม
จึงบ้างท่วมทางทำด้วยน้ำตา
.
อนิจจังตั้งไว้อยู่ในอก
ไม่ต้องยกย้ายออกทำหลอกค่า
พินิจนำพร่ำขานไม่ผ่านลา
อนิจจาจึงเตือนเป็นเพื่อนเรา
.
ร้อนตะวันนั้นใครจะไม่ร้อน
การผันผ่อนเผื่อผลทุกคนเฝ้า
รู้หลีกหลบพบทางที่บางเบา
สุขทุกข์เศร้าสอนเสริมเข้าเติมเต็ม๚ะ๛
☆   ☆   ☆



วสันต์นี้พี่ยังคอย


วสันต์นี้พี่ยังคอย
.
วสันต์ถวิลยินเสียงร้อยเรียงร่ำ
ให้ชุ่มฉ่ำเฉกทิพย์มาหยิบสม
ละอองไอไหลหลั่งแลพรั่งพรม
เติมอารมณ์ร่วมร้องทำนองคลอ
.
เพลงบรรยายหลายล้นดังหม่นเศร้า
แต่แฝงเงาแง่งอนสะท้อนขอ
อย่าลาลับกับฝนให้คนรอ
เพลงตัดพ้อเพรียกขานคำหวานโปรย
.
วสันต์ครวญหวนหายามฟ้าคลั่ง
คืนฟ้าหลั่งลมแรงใจแห้งโหย
วสันต์ย้ำน้ำตายามล้าโรย
สายฝนโปรยเปรียบเปรยรักเอ่ยลา
.
ให้กลับคืนยืนคอยรอร้อยรัก
ห่วงเหหักห่างไกลดวงใจจ๋า
อาวรณ์เอยเผยฝันจำนรรจา
ทุกครั้งคราคืนคล้อยยังคอยนวล
.
เพลงสะท้อนวอนเว้าแทรกเงาสุข
เคยปลอบปลุกปรับเสริมต่อเติมส่วน
แต่วสันต์หันเหให้เรรวน
ใจจึงป่วนเป็นฉากให้พรากกัน
.
วรรษาสิ้นผินกลับมาซับซึ้ง
ยังตราตรึงต่อนวลหมายสรวลสันต์
ฟ้าหลังฝนล้นฉ่ำถ้อยจำนรรจ์
จะปลอบขวัญขับขาน..ด้วยหวานคำ๚ะ๛
☆   ☆   ☆
♥ ♥


คืนนั้น


คืนนั้น
.
คืนหนึ่งนั้นวันก่อนต้องช้อนยิ้ม
หน้าเธอพริ้มเพริศพริ้งให้ยิ่งหวน
กลางอ้อมแขนแฟนฉันแสนรัญจวน
ชมชี้ชวนชื่นหวานสะท้านทรวง
.
เป็นคืนแรกแหวกม่านสู่ด่านฝัน
เป็นคืนนั้นนานแสนสู่แดนสรวง
เป็นคืนของสองเคลื่อนถึงเดือนดวง
เป็นคืนล่วงเลยแถนถึงแดนพรหม
.
สะท้อนเสียงเคียงคู่ยามอยู่สอง
สายตามองเมียงหมายสยายผม
แว่วสะอื้นชื่นฉ่ำที่พร่ำชม
รักแรกสมสู่เสริมเข้าเติมตาม
.
จากสองใจในวันที่ฝันแต่ง
ไม่อาจแบ่งบิดไปให้ไหวหวาม
รวมเป็นหนึ่งพึงมีฤดีงาม
ในทุกยามยิ้มแย้มเคียงแก้มนวล
.
คืนนั้นงามหวามใจยามไกลห่าง
คืนนั้นต่างต่อเสริมเข้าเติมส่วน
คืนนั้นภาพอาบฝันกระชั้นชวน
คืนนั้นล้วนเลอรสทุกบทตอน
.
แสนด่ำดื่มปลื้มปันสวรรค์สวาท
เติมแต่งวาดเวียนว่ายเกินถ่ายถอน
รักแรกชื่นคืนฉ่ำยังพร่ำวอน
เสียงออดอ้อนอิงอุ่น ยังกรุ่นกาย๚ะ๛
☆   ☆   ☆



หวงเพราะรัก



หวงเพราะรัก
.
มีรักหวานซ่านทรวงต้องหวงแหน
มีรักแสนสดใสอิงไออุ่น
มีรักหญิงยิ่งเหลือด้วยเจือจุน
มีรักหนุนนำพาสุขารมณ์
.
จึงแสนหวงห่วงนวลรัญจวนเจ้า
แรงรักเร้ารวมเสริมเข้าเติมสม
จึงรักใครใครห้ามใครตามชม
แรงหวงห่มห่อห้อมไม่ยอมใคร
.
รักของเราเราสร้างเราวางกรอบ
รักเรามอบเมื่อปองทั้งสองใฝ่
รักของเราเราเห็นความเป็นไป
รักด้วยใจจับจองเป็นของกัน
.
ทั้งชีวิตจิตนี้พร้อมพลีผล
เพื่อหนึ่งคนคือเธอเสมอมั่น
ทั้งโลกนี้มีเจ้าเพียงเท่านั้น
ทั้งชีวันเวียนวอนเพียงอ้อนเธอ
.
จึงหวงรักรักนี้เท่าชีวิต
ด้วยดวงจิตจับจองสนองเสนอ
จึงหวงแหนแฟนฉันทุกวันเจอ
ด้วยเสมอเหมือนตะวันไม่ผันแปร
.
ตราบสิ้นฟ้าลาดินจึงสิ้นสม
ตราบร่างจมจากดินถวิลแม่
ตราบเดือนดวงห่วงฟ้าทุกคราแล
ตราบนั้นแท้ทางหวงและห่วงนวล๚ะ๛
☆   ☆   ☆