หน้าแรก

วันเสาร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2559

เป็นห่วง (กาพย์ฉบัง ๑๖)


เป็นห่วง
(กาพย์ฉบัง ๑๖)
.
แลลานธารใสไหลเชี่ยว    หลงชอบริ้วเรียว
รับรุกเลยแล้วแนวนำ
.
จากคนบนฝั่งสั่งย้ำ    ส่งยิ้มอิ่มคำ
จักคิดติดตามยามไกล
.
ลาแล้วแผ่วเผยเลยไป     ล่วงปลายหมายใด
ติดดับสับสนคนปอง
.
สำเนียงเสียงสั่งฝั่งคลอง    ฝากคำทำนอง
ตระหนกวกวนหม่นทรวง
.
อยู่ไหนให้เห็นเป็นห่วง    เปลี่ยวหวนล้วนลวง
จักลับแล้วเลือนเตือนคำ
.
ด้วยรักเหลือล้นบ่นพร่ำ   บอกพร้อมน้อมนำ
สุขนับแนบนวลชวนชม๚ะ๛
☆☆☆
.
กาพย์ฉบัง ๑๖
ตำราอาจารย์กำชัย ทองหล่อ

พบลักษณะดีพิเศษ ๓ ข้อ

๑. ให้คำที่ ๑ และที่ ๒ ของวรรคที่ ๓ เป็นคำตาย
(คือคำที่ประกอบด้วยสระเสียงสั้นในแม่ ก กา และคำที่มีตัวสะกดในแม่ กก กด กบ)

๒. ให้คำที่ ๒ ของวรรคที่ ๓ เล่นอักษรหรือสัมผัสอักษรกับคำสุดท้าย ของวรรคที่ ๒

๓. ให้ ๒ คำหลังของวรรคต้น กับ ๒ คำต้นของวรรคที่ ๒ เล่นอักษรกัน




ภาพนั้นเกินบรรยาย



ภาพนั้นเกินบรรยาย
.

ภาพสะท้อนย้อนแย้งมากแรงเร้า
เป็นเหมือนเงาเงื่อนงำชี้นำกลุ่ม
เกินบรรยายหลายร้อยเขียนถ้อยคลุม
เป็นกองสุมสื่อสารคนขานคำ
.
ภาพสะท้อนวอนเว้าเรื่องเล่าขาน
แต่ก่อนกาลเกิดเห็นประเด็นร่ำ
ทุกภาพมีที่มาควรค่านำ
ให้จดจำจากภาพที่อาบกาล
.
อาจแปลกตาครามองสมองสื่อ
อาจเพียงคือครั้งคราวพากล่าวขาน
อาจจัดฉากมากล้นเป็นผลงาน
อาจเพียงด้านดูดีสาดสีงาม
.
จะอย่างไรใครเห็นประเด็นย้อน
แต่กาลก่อนเกิดดับเกินขับข้าม
สังคมหมู่อยู่ดีถ้อยทีตาม
ทุกเขตคามใครดูคงอยู่เย็น
.
อย่างเรียบง่ายปลายทางที่วางวาด
ธรรมชาติ ชี้ชวนสมควรเห็น
กินอย่างไรไม่เร้าอย่างเราเป็น
ไม่ลำเค็ญใครเถียงด้วยเพียงพอ
.
ภาพสะท้อนย้อนย้ำเกินคำกล่าว
สื่อเรื่องราวเรียงนำเกินพร่ำขอ
รู้เหตุการณ์สารสนจากต้นตอ
สืบสานต่อตามกาลเนิ่นนานปี๚ะ๛
☆☆☆




วันพฤหัสบดีที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2559

คนหมองยังครองโลก


คนหมองยังครองโลก
.

จากคนหมองมองโลกโศลกต่ำ
จากถ้อยคำเคียงใจสุดไหวหวาม
รำพึงพาหาใครคนไหนตาม
จึ่งทุกยามยังเพ้อดังเหม่อลอย
.
ยิ่งเมื่อโลกโศกเศร้ายิ่งเฝ้าฝืน
ยิ่งบางคืนครวญใคร่หัวใจหงอย
ยิ่งห่างไกลให้หาน้ำตาปรอย
ยิ่งเรียงร้อยลำนำยิ่งกล้ำกลืน
.
โลกหรือเราเศร้าขมอารมณ์จับ
ใครขานขับขุ่นข้องจนต้องฝืน
หรือเพราะเขาเราพร่ำทุกค่ำคืน
ไม่ยั่งยืนยามย้อนสะท้อนใจ
.
ครุ่นคิดคอยลอยลมผสมผสาน
หวังรักหวานหว่านถึงคะนึงใฝ่
ยามโลกหมองครองเคียงสำเนียงใด
จึงผ่องใสสมส่วนไม่ป่วนปน
.
โลกมีเขาเราไฉนเหมือนไกลจาก
เหมือนรักฝากใฝ่ปองล้วนหมองหม่น
เรามีใครให้หาระอาตน
แสนมืดมนมองหาคืนฟ้าดำ
.
เมื่อคนหมองมองโลกจึงโศกเสริม
สิ่งมาเติมต่อคืนยิ่งกลืนกล้ำ
หลับตาลงปลงจิตไม่คิดคำ
นิ่งน้อมนำหนึ่งนวลว่าครวญคอย๚ะ๛
☆☆☆
♥♥




รักแล้วรอหน่อย


รักแล้วรอหน่อย
.
กว่าคำรักจักซึ้งเข้าตรึงติด
กว่าดวงจิตจักสมอารมณ์เกี่ยว
กว่าสองใจได้สมรักกลมเกลียว
กว่ารักเหนี่ยวเหนียวแน่นนั้นแสนนาน
.
จากสายตาคราสองจ้องประจักษ์
กว่าถ้อยทักทางเทียวจะเกี่ยวสาน
กว่าเกี่ยวก้อยคอยคำมีสำราญ
จวบกี่กาลเกิดกลอนมาอ้อนกัน
.
เนิ่นนานปีมีผลจากต้นสวย
“รัก” เริ่มด้วยดินปลูกได้ผูกฝัน
วางหน่อ “รัก” ปักนำสื่อสัมพันธ์
นับคืนวันเวียนวนสองคนรอ
.
กว่า “รัก” ต้นบนใจแตกใบพุ่ม
ต้องล้อมรุมรายรอบเป็นขอบก่อ
ระวังแรงแห่งลมมาถมทอ
พ้นภัยพอเพื่อ “รัก” สลักใจ
.
ปลูก “รัก” หนอรอหน่อยต่างร้อยร่ำ
เติมถ้อยคำเคียงคั่นอย่าหวั่นไหว
เมื่อต้นรักปักมั่นจะหวั่นใด
อสงไขยขานขับฟังจับจินต์
.
จะรอหน่อยค่อยขานให้หวานเพิ่ม
จะต่อเติมเต็มตักด้วยรักถวิล
จะกี่ปีที่รอ..โอ้หนอยุพิน
จะยลยินยอมลอง..รักต้องรอ..๚ะ๛
☆☆☆
♥♥



ฝากบทกวีเพื่อที่รัก



ฝากบทกวีเพื่อที่รัก
.
บทกวีนี้ไฉนรักใครเป็น
หลากลำเค็ญคนต่างเพียรสร้างสม
ใช้อักษรป้อนนำด้วยคำคม
มากชื่นชมชวนชี้ไมตรีตาม
.
ใช้คำอ้างสร้างฝันสัมพันธ์เสริม
แล้วให้เริ่มรักเขาใจเราหวาม
บทกวีที่เห็นประเด็นงาม
ยังคอยถามทวงเธอดั่งเผลอใจ
.
เขาเพียงผ่านหวานถ้อยที่ร้อยร่ำ
อักษรช้ำชอกชั้นสุดหวั่นไหว
เขาแอบเมินเดินห่างหลีกทางไป
สิ้นเยื่อใยยึดเหนี่ยวปล่อยเดียวดาย
.
ฝากวจีที่ไหนจะได้สม
ให้เจ้าชมชี้ชวนไม่ด่วนหาย
ฝากที่ฟ้าถลาลมว่างมงาย
ฝากที่ปลายปีกฝันกลัวหันลอย
.
เขียนมาวางอย่างนี้มากมีหวัง
ว่าสักครั้งคงพอลออสอย
เพียงเหลือบแลแค่ครู่ให้ผู้คอย
มีแรงร้อยเรียงสารด้วยหวานคำ
.
ฝากไว้ด้วยช่วยอ่านบทกานท์รัก
มุ่งทอถักท่วมถ้อยด้วยร้อยร่ำ
จับอักษรอ้อนหารักพานำ
ด้วยลึกล้ำรสสวาทที่วาดวาง๚ะ๛
☆☆☆




สื่อแสงรัก



สื่อแสงรัก
.
แสงที่ส่ง ส่งสื่อคือความหวัง
แสงที่สั่ง สั่งหล้าพาฮึกเหิม
แสงใดเท่าเท่าแสง จากแรงเจิม
แสงใดเพิ่มเพิ่มฝาก จากแรงใจ
.
งามแสงที่ ที่ทอคอยล้อลอง
งามแสงทอง ทองทาบอาบฟ้าใส
งามทั่วทิศทิศทาง สว่างไป
งามแห่งไหนไหนบ้าง สว่างปอง
.
ละเมอหมาย หมายว่าอุราเฉือน
ละเมอเหมือน เหมือนใฝ่ใคร่สนอง
ละเมอไหนไหนเท่า เราคู่ครอง
ละเมอมองมองรู้ เราคู่เคียง
.
สื่อแสงสูร สูรงามตามประสงค์
สื่อแสงส่ง ส่งเสริมเติมสุดเสียง
สื่อแสงรักรักล้น บนรักเรียง
สื่อแสงเอียงเอียงนัก บนรักเรา
.
แยกแสงสื่อ สื่อสนคงหม่นหมอง
แยกแสงส่อง ส่องหล้าคงพาเหงา
แยกแสงงามงามงัน คงบรรเทา
แยกแสงเน่าเน่าลง คงบันเทิง
.
สื่อด้วยสม สมคำนำแสวง
สื่อด้วยแสง แสงใดได้เถลิง
สื่อจากใจใจเรา เร้าสำเริง
สื่อชั้นเชิงเชิงร่ำ เร้าสำราญ๚ะ๛
☆☆☆


กลบทรักร้อย+สร้อยสลับคู่สคราญ
(กลบทรักร้อย ให้มีคำซ้ำกันหนึ่งคู่ อยู่ชิดกัน)




วันศุกร์ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2559

วันผ่อนคลาย


วันผ่อนคลาย
.
อยากผ่อนคลายคล้ายวางทุกอย่างปล่อย
อยากเหมือนลอยลมบนไม่วนหวน
อยากเหมือนฝันวันคืนวันชื่นชวน
อยากรัญจวนใจเจ้ายามเล้าโลม
.
อยากยากยิ่งสิ่งอยากล้วนยากนัก
ดังตกปลักเปียกตมเข้าห่มโหม
หวังให้ผ่านด่านทุกข์ที่ซุกโทรม
อยากลอยโคมความขมให้ลมพา
.
แต่ไฉนใจเรายังเขลาขลาด
ไยไม่อาจเอื้อมนั้นดั่งฝันหา
แต่ไฉนใจจมขื่นขมอุรา
ไยไม่ลาลืมหลังคอยนั่งจำ
.
อยากผ่อนคลายสายใจปล่อยไหลล่อง
หลุดบ่วงคล้องคาตนให้บ่นพร่ำ
อยากเหลือเพียงเสียงเดียวน้อมเหนี่ยวนำ
นั้นคือคำคนรักอ้อนทักทาย
.
อีกเนิ่นนานปานใดดวงใจเอ๋ย
ได้เฉลยลำนำสมคำหมาย
อีกกี่คืนฝืนขมระทมกาย
กว่าผ่อนคลายเคียงข้าง..กี่ปางบรรพ์
.
หายกังวลล้นยากคนมากห่วง
มีมากบ่วงเบียดบดกันลดหลั่น
คงหายพร้อมน้อมนำสิ้นรำพัน
เมื่อร่างนั้นนอนในกองไฟฟอน๚ะ๛
☆☆☆



ภาพสะท้อน


ภาพสะท้อน
.
เหตุสะท้อนย้อนย้ำใดกำหนด
มากบริบทบอกทางทุกอย่างเห็น
ตามต้นแบบแนบวางทุกอย่างเป็น
สื่อประเด็นด้วยผลได้ยลยิน
.
สะท้อนน้ำนำอิงทุกสิ่งสม
แสงกลืนกลมก่อกลกมลถวิล
น้ำยิ่งนิ่งยิ่งใสแน่ในจินต์
สะท้อนสิ้นเส้นสายไม่กลายกลืน
.
สะท้อนในใจเจ้าใจเรานั้น
มากจำนรรจ์นำจัดล้วนขัดขืน
อารมณ์รวนชวนยั้งหายั่งยืน
สะท้อนคืนคงสะท้อนกว่าก้อนกรรม
.
ใจไม่นิ่งสิ่งขมอารมณ์เร้า
ใจยิ่งเฝ้าใฝ่ฝืนดั่งกลืนกล้ำ
สะท้อนใดไหนจริงมากอิงอำ
สะท้อนคำคอยกลั้วสลัวราง
.
กระจกเงาเขาสะท้อนนำย้อนแสง
หาจำแลงล้ำผลให้คนหมาง
แต่มีใครไหนเชื่อไม่เจือจาง
มากยังอ้างเอนเอียงตามเสียงตน
.
สะท้อนใดไหนจริงไม่อิงแอบ
สะท้อนแถบทางภาพไม่อาบหม่น
สะท้อนตัวหัวใจหยุดไหววน
สะท้อนคนคงใฝ่ ให้พอเพียง๚ะ๛
☆☆☆



วันพฤหัสบดีที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2559

รักยิ่ง “แม่” หญิงไทย


รักยิ่ง “แม่” หญิงไทย
.
จะกี่คำนำถ้อยมาร้อยพร่ำ
จะชื่นฉ่ำเฉก “แม่” เมื่อแลหา
จะซึ้งซ่านนานโดยไม่โรยรา
จะล้ำค่าควรลูกผู้ผูกจินต์
.
คำเรียก “แม่” แลเด่นคนเช่นลูก
ผู้ปั้นปลูกเปี่ยมปองทุกท้องถิ่น
เรียกจากใจใช่กายเพียงร่ายริน
ตราบฟ้าดินด้วย “แม่” ไม่แปรเปรย
.
มีคำใหม่ไหนมีเป็นศรีสวัสดิ์
เท่าบัญญัติยึดนานที่ขานเอ่ย
คือทุกอย่างสร้างเสริมที่เติมเกย
ล้วน “แม่” เคยคอยสานทุกด่านเดิน
.
คำ “รักแม่” แต่สั้นสำคัญนัก
ไม่เคยผลักเพื่อจัดให้ขัดเขิน
คำ “รักแม่” แน่นอนเป็นก้อนเกิน
จะผิวเผินเพียงเพ้อละเมอนำ
.
“คิดถึง” แม่แม้จาก แม้พรากแล้ว
เสียงยังแจ้วแววขานยังหวานฉ่ำ
เสียงห่วงหาอาทรยังย้อนจำ
ถ้อยเนิบย้ำยังซ่านยามคร้านฟัง
.
คือหญิงแท้ “แม่” เราต้องเฝ้าฝัน
รำลึกมั่นมากมนต์เกินล้นหลั่ง
ผู้เกิดเกล้าเรากล้าให้ฟ้าฟัง
ว่าลูกยัง “รัก” ยิ่ง แม่หญิงไทย๚ะ๛
☆☆☆



กราบแม่


กราบแม่
.
พระคุณแม่เลิศล้นทุกคนรู้
ได้เกิดอยู่ดูโลกสู่โศกสุข
ล้วนมีแม่แผ่ผลบนความทุกข์
ปั้นและปลุกทุกสถานการเลี้ยงดู
.
หรือมีใครไหนอ้างเป็นอย่างอื่น
หรือมีใครไม่ชื่นยืนอดสู
ต่างแต่เกิดจากครรภ์อันเชิดชู
ทุกเหล่าหมู่รู้เลิศเทิดพระคุณ
.
แต่ล้ำค่าว่าเลิศประเสริฐศรี
ล้วนมากมีดีล้นคนนำหนุน
เกียรติบัตรวัดค่ามากการุณย์
เมื่อสิ้นบุญแม่แล้ว..แจ้วจำนรรจ์
.
ยามท่านอยู่ดูแลกันแค่ไหน
มีบ้างไหมคำชมคารมย์นั่น
กราบบ้างไหมยามอยู่คู่คืนวัน
ได้กลับหันห่วงหากี่คราครั้ง
.
ทำให้แม่แลเห็นความเป็นอยู่
สุขทุกข์สู้รู้เสริมเติมความหวัง
ชื่นชมแม่แท้จริงยิ่งพลัง
แม่ได้ฟังดั่งหมายก่อนตายไป
.
เทศกาลด้านดีมีสำนึก
รู้รำลึกคุณแม่มากแค่ไหน
กราบอังคารนานแล้วแม่แก้วใจ
กราบสดใสใส่ตัก..รักแม่เรา..
.