เหมือนละอองไอเย็นเห็นสลัว
เกาะกระจกมากมัวเป็นตัวหม่น
ปิดบังแสงสดใสสายตาคน
มองให้พ้นผ่านยากเป็นฉากบัง
มองทุกอย่างระหว่างนี้เหมือนลี้ลับ
หาสดับใดแท้แก่วาดหวัง
ยิ่งก้าวตามยิ่งห่างอย่างรุงรัง
เอื้อมคว้ายังพลั้งพลาดขาดประเมิน
สัมผัสได้หาใช่สัมผัสจริง
เหมือนทุกสิ่งสัมผัสเลือนเคลื่อนขาดเขิน
ที่ยึดเหนี่ยวไร้ค่าคราเผชิญ
เป็นเพียงเดินถลำต้องคลำทาง
ใจสัมผัสว่าใช่ก็ไม่แน่
ล้วนปรวนแปรแค่เห็นเป็นเพียงหาง
ไม่เห็นตัวหัวหายคล้ายแสงจาง
สลัวร่างสัมผัสไหนไร้ตัวตน
สัมผัสใดใสสุกทุกสถาน
แต่ร้าวรานสัมผัสใครให้มัวหม่น
ยิ่งสัมผัสหัวใจในสองคน
ยากยิ่งล้นบนหมายหลบสายตา
สัมผัสเลือนบทกลอนถูกสอนสั่ง
สัมผัสยังไม่ชัดจัดใหม่หนา
สัมผัสเลือนชีวิตผิดทุกครา
ใครอาสา..ชี้ด้วย ..ช่วยชี้นำ..
เกาะกระจกมากมัวเป็นตัวหม่น
ปิดบังแสงสดใสสายตาคน
มองให้พ้นผ่านยากเป็นฉากบัง
มองทุกอย่างระหว่างนี้เหมือนลี้ลับ
หาสดับใดแท้แก่วาดหวัง
ยิ่งก้าวตามยิ่งห่างอย่างรุงรัง
เอื้อมคว้ายังพลั้งพลาดขาดประเมิน
สัมผัสได้หาใช่สัมผัสจริง
เหมือนทุกสิ่งสัมผัสเลือนเคลื่อนขาดเขิน
ที่ยึดเหนี่ยวไร้ค่าคราเผชิญ
เป็นเพียงเดินถลำต้องคลำทาง
ใจสัมผัสว่าใช่ก็ไม่แน่
ล้วนปรวนแปรแค่เห็นเป็นเพียงหาง
ไม่เห็นตัวหัวหายคล้ายแสงจาง
สลัวร่างสัมผัสไหนไร้ตัวตน
สัมผัสใดใสสุกทุกสถาน
แต่ร้าวรานสัมผัสใครให้มัวหม่น
ยิ่งสัมผัสหัวใจในสองคน
ยากยิ่งล้นบนหมายหลบสายตา
สัมผัสเลือนบทกลอนถูกสอนสั่ง
สัมผัสยังไม่ชัดจัดใหม่หนา
สัมผัสเลือนชีวิตผิดทุกครา
ใครอาสา..ชี้ด้วย ..ช่วยชี้นำ..
"บ้านริมโขง"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น