หน้าแรก

วันเสาร์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2556

หวานเกินใครรักใดปาน

หวานเกินใครรักใดปาน


หวาน ทุกคำพร่ำขานปานตาลต้น
มอบทุกคนหวานฉ่ำคำรักแม่
เกินจะทานหวานหยดมดคอยแล
ทุกถ้อยแท้แพ้คำฉ่ำหวานนาง

เกิน หัวใจจะห้ามไม่หวามไหว
ช่างพิไรในถ้อยเกินถอยห่าง
คมอักษรย้อนจิตเกินคิดวาง
ทุกที่ทางเกินยั้งด้วยยังจำ

ใคร คนหนึ่งซึ้งทรวงทุกท่วงถ้อย
งามหยดย้อยใครขานมานถลำ
ดังอิ่มทิพย์หยิบให้ใครน้อมนำ
สุขเลิศล้ำฉ่ำใจใครหนึ่งคน

รัก สุดซึ้งหนึ่งนางอย่างมุ่งหมาย
ฝันถึงปลายรักนั้นสัมพันธ์ผล
ก้าวตามรักปักทรวงทุกช่วงดล
ด้วยรักล้นบนสนองจากสองเรา

ใด ไหนเลย เชยชมสมเสมอ
ยามขาดเธอใดขมเท่าตรมเหงา
เมื่อโศกซึ้งตรึงร่างใดบางเบา
ยามรักเขาใดห่มคลายตรมทรวง

ปาน สิ้นใจสิ้นชีพรีบตักษัย
หมดเชื้อไฟไร้หวานปานหมดห่วง
หากรักลาล่าถอยปานลอยดวง
เปรียบติดบ่วงนายพรานปานสิ้นลม

วันจันทร์ที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2556

~@ ฉันอาจเป็นดั่งสายลม @~


ฉันอาจเป็นดั่งสายลม

ฉัน เป็นเพียงนามธรรมคำเรียกขาน
บอกสัณฐานเป็นคนบนความหมาย
เพียงสื่อถึงหนึ่งใครไม่กลับกลาย
เป็นผู้ชายฝ่ายเพศแบ่งเฉดกัน

อาจ อยู่ในจินตนาบางคราครั้ง
ไร้วาดหวังตั้งหมายที่ปลายฝัน
อยู่เนิ่นนานปานใดไม่สำคัญ
รอผ่านวันผ่านคืนยืนใช้กรรม

เป็น เช่นแสงสีขาวคราวฟ้าแจ่ม
ไร้ใดแซมให้สวยด้วยชื่นฉ่ำ
สื่อสายตาให้เห็นเป็นแสงนำ
ยามมืดค่ำก็หายสลายเลือน

ดั่ง  เสียงเพลงแผ่วหวานลอยผ่านพ้น
สัมผัสจนรู้แจ้งสำแดงเหมือน
หากแต่ไร้ใครเล่นดุจเด่นเดือน
สาดแสงเยือนเหมือนรู้ดูด้วยตา

สาย  สื่อถ้อยร้อยเรื่องเปรื่องวิจิตร
ต่างชีวิตต่างแบบแอบใฝ่หา
มากอารมณ์บ่นฝันอันจินตนา
ไร้ใครคว้าตัวตนให้คนเชย

ลม เลื่อนลอยเลยลับใครจับต้อง
เพียงนั่งมองแรงพัดตัดใจเฉย
รับรู้ลมเย็นกายผายผ่านเลย
รู้คุ้นเคยเพียงนี้ ที่ชื่นชม

~@ ชุมนุมโคลงโลกนิติ @~

 
กรมพระยาเดชาดิศร

หมั่นเพียรเรียนใฝ่หา             เกิดปัญญาเสริมราศี
เป็นปราชญ์ราชกวี                 ด้วยขยันอันเป็นคุณ

เกียจคร้านทุกงานถอย            การงานพลอยร้อยเคืองขุ่น
ดุจหาตะกร้าพรุน                   ตักน้ำใส่ไหนจะเต็ม

~@ ชุมนุมโคลงโลกนิติ @~


เอ่ยอ้างช่างกร่างเหลือ        เก่งทุกเมื่อวาจานี่
เด็กน้อยท้าต่อยตี              คนเหม็นเบื่อเหลือระอา

คนจริงนิ่งสุขุม               ไม่กลัดกลุ้มสุมปัญหา
มากล้นบนปัญญา           เพื่อแก้ปมอย่างคมคาย

~@ ชุมนุมโคลงโลกนิติ @~

 
กรมพระยาเดชาดิศร
 
ดูสวยด้วยสดใส                     สุดวิไลใจวาบหวาม
อยากปองสนองตาม              เห็นผลเดื่อเมื่อสุกดี

แต่ในนวลเนื้อนั้น                   สิ้นผ่องพรรณวรรณฉวี
ดั่งคนล้นมากมี                         ใจโหดร้ายในกายงาม

~@ ชุมนุมโคลงโลกนิติ @~

 
กรมพระยาเดชาดิศร

มัวเมาเฝ้าเกลือกกลั้ว       ได้ติดตัวจั่วประสงค์
เลือกรับกับจำนง           ด้วยกลิ่นสีตามที่เป็น

เลือกดีได้ดีตาม         หากเลือกทรามตามกลิ่นเหม็น
เดือดร้อนค่อนลำเค็ญ        อุทาหรณ์วอนคะนึง    

 
 
 
 

วังวน... ความรู้สึก


เหมือนสับสนบนทางวางเป้าหมาย
เหมือนหลากหลายปัญหามารุมเจ้า
เหมือนหลายเหตุคลุมเครือเหลือเป็นเงา
เหมือนนั่งเฝ้าปัญหาพะว้าพะวัง

หาต้นเหตุเฉดใดไหนแหล่งเกิด
หาระเหิดเปิดผลบนความหวัง
หามรรคผลบนวิถีที่จีรัง
หากระทั่งใจตนบนปัจจัย

แล้วรู้ตนบนสำนึกตรึกถี่ถ้วน
แล้วคิดครวญมวลผลบนสมัย
ตัดบางอย่างด้วยมั่นบั่นอาลัย
ตัดสิ่งใดใครก่อส่อระทม

เลือกช่องทางพอตนบนทางก้าว
อย่าสั้นยาวขาวดำทำให้ขม
เลือกพอดีที่เห็นเช่นชื่นชม
อย่ามัดปมไร้เงื่อนเกินเคลื่อนคลาย

ทุกปัญหาชั่วดีมีทางออก
ปัญญาบอกแห่งหนบนความหมาย
อย่าร้อนรนจนยอมผอมใจกาย
เวลาเหลือมากมาย..ใช้ให้เป็น

ขอแค่กำสองมือถือไว้ก่อน
อย่ารีบร้อนหอบใหญ่ใส่รถเข็น
มองเพียงก้าวคราวเริ่มเติมประเด็น
ไม่ลำเค็ญ..ไม่ล้าแรง..แกร่งตามวัน..

เหมือนความรักเริ่มเรียกหา

เหมือนความรักเริ่มเรียกหา

เหมือนรอบกายคล้ายว่างอย่างตาเห็น
กลับไม่เป็นเช่นนั้นเหมือนวันก่อน
วันนี้เหมือนมีใครใส่คำวอน
จากบทกลอนอ้อนหาเหมือนพาที

ความว่างเปล่ากลับล้นพ้นคาดคิด
หากพินิจความเห็นเป็นสักขี
รอบกายเรามากตามความหมายมี
ความคิดถึงล้นปรี่ที่ฝากมา

รักเรียกร้องปองหมายสายสวาท
จนไม่อาจขาดรักฝักใฝ่หา
แม้หลับฝันนั้นรักพำนักพา
ยามรักลาคราครั้งนั่งระทม

เริ่มสำนึกตรึกตรองมองด้วยมั่น
อณูนั้นปันเพิ่มเริ่มสุขสม
ลมหายใจเริ่มรู้ดูชื่นชม
มากสื่อสมบ่มสวาทเริ่มบาดใจ

เรียกจากตนบนสื่อคือปรารถนา
เริ่มเรียกหามาวางอย่างสวยใส
อยากจองจับเสียงเพรียกไม่เรียกใคร
หยุดหวั่นไหวในคำพร่ำเรียกนาง

หาได้หวั่นวันนี้มีรักสม
เพาะรักห่มห่วงหาไม่ลาห่าง
ปลูกรักลงส่งหาว่าปลายทาง
รับรักวางกลางใจ..หาได้ลืม

๑๕ เมษายน ๒๕๕๖


**เพียงลองใช้คำคำเดียวมาเขียนในทุกวรรคก็เท่านั้น**

...เล่นด้วยกันมั้ย? 


~* ส่งความคิดถึง *~

ส่ง..รู้สึก จากใจใช่เสกสรร
ความ..หมายนั้น ทั้งมวลล้วนสุขี
คิด...ทุกครั้ง ภาพเก่าเราพาที
ถึง..เมืองแมน แดนฉิมพลีที่คลอเคียง

ส่ง..สัมพันธ์ มั่นหมายคล้ายบรรจบ
ความ..จริงพบ สบตาพาส่งเสียง
คิด..คำหวาน ถักทอหนอสำเนียง
ถึง..เรียบเรียง กรองกานท์หวานกวี

ส่ง..ฝากลม พลิ้วผ่านวานกระซิบ
ความ..ถี่ยิบ ห่วงหวงพวงฉวี
คิด..รำพึง หนึ่งใส่ในวจี
ถึง..นารี แน่นอน..ก่อนลมลา

ส่ง...ไปแล้ว รักมาก จากใจฉัน
ความ..ผูกพัน ฝันเพิ่มเติมเสาะหา
คิด...พะวง คงครวญป่วนอุรา
ถึง..กานดา..ว่า “รัก” เกินหักใจ..