หน้าแรก

วันเสาร์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2561

คืนวันผ่านกว่านานนับ


คืนวันผ่านกว่านานนับ
.
คืน ที่คอยคล้อยรุ่งปรับปรุงจิต
คืนที่คิดคอยความทุกยามหวัง
คืนที่เหม่อเพ้อหาตั้งตาฟัง
คืนที่ยังอยู่เยือนยิ่งเลื่อนลอย
.
วัน เดือนปีที่ผ่านดังม่านหมอก
วันเวียนบอกบ้างบิดความคิดปล่อย
วันผ่านผันบั่นผลถึงคนคอย
วันละห้อยโหยหาน้ำตานอง
.
ผ่าน นาทีนี้เหมือนโลกเลื่อนหลุด
ผ่านเดือนทรุดโทรมตนแสนหม่นหมอง
ผ่านถึงปีนี้คล้ายความตายจอง
ผ่านหวานปองเปี่ยมแปล้ต้องแท้ระทม
.
กว่า อีกนานปานใดที่ไกลเจ้า
กว่าใดเล่าลงเอยชื่นเชยสม
กว่าเมื่อไหร่ในถ้อยที่คอยชม
กว่ารื่นรมย์เรานั้นกี่พันปี
.
นาน นั้นนานหวานเกี่ยวไม่เลี้ยวลด
นานรักสดสู่สองหมายครองสุขี
นานรอคอยถ้อยฟั่นสัมพันธ์มี
นานเหลือดีเดินเดี่ยวแสนเปลี่ยวดาย
.
นับ นาทีปีเดือนที่เคลื่อนผ่าน
นับเป็นล้านลมฟ้าดาวลาหาย
นับฤดูสู่ฤดีแสนปีปลาย
นับจนตายตาตื่น ยังชื่นนวล๚ะ๛


วันพฤหัสบดีที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2561

พร่ำรำพึง


พร่ำรำพึง
……….
เก็บงานเก่าเอาวางเป็นบางช่วง
กาลเลยล่วงเลื่อนลาต้องหน้าหัน
บ้างนั่งนึกตรึกคำเฝ้ารำพัน

คู่ขากันก็ล้าหันหน้าเมิน
.
นั่งรำพึงหนึ่งเดียวอย่างเปลี่ยวเหงา
คนคลอเคล้าเคียงร่างเขาห่างเหิน
นั่งมองเดือนเลื่อนลอยเศร้าสร้อยเกิน
เหมือนดุ่มเดินเดียวดายหลงสายทาง
.
งานประพันธ์กลั่นคำต้องสำลัก
หลงลืมหลักริเริ่มมาเสริมสร้าง
ถ้อยคำหวานหว่านเฉือนดูเลือนราง
ไออุ่นอ้างโอบอ้อนก็คลอนคลาย
.
คืออารมณ์ขมเกิดมาเปิดปัด
เกินบำบัดบิดเบี้ยวกอดเกี่ยวสาย
ความกังวลบนจิตครวญคิดมิวาย
ร้อนใจกายเกินกลบมาลบรอย
.
จวบวันนี้ที่ฟื้นได้คืนกลับ
ด้วยรสรับแรงรักมากทักถ้อย
มีเชื้อไฟไอฝันสัมพันธ์กลอย
อารมณ์ค่อยคืบคลานมีหวานคำ
.
เขียนด้วยรักปักปันสัมพันธ์ก่อ
เขียนตามต่อติดไฟด้วยใจฉ่ำ
เขียนบอกข่าวคราวครั้งที่ยังจำ
เขียนเพรียกพร่ำเพ้อบ่น..ถึงคนดี๚ะ๛

☆✾☆

วันพุธที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2561

ร้อนรุม(กลบทมธุรสวาที)


ร้อนรุม
.
เกินจะยั้งหวังผลที่ตนหมาย
ทุกอย่างกลายเกินคิดจนจิตเฝือ
ร้อนภายในไฟแฝงสำแดงเจือ
ภายนอกเหลือหลีกหลบต้องพบพาน
.
วาดสวรรค์สรรค์สร้างไว้อย่างเลิศ
หวังก่อเกิดเก็จแก้วมีแววหวาน
เฝ้าแต่รอต่อผลมั่นมนต์มาน
กลับร้าวรานรุมร้อนยอกย้อนฤดี
.
ไฟฝากแฝงแรงรับเกินดับมอด
จวนไหม้บอดบอกลาน้ำตาปรี่
ร้อนเกินล้างทางคลายหาหมายมี
ทุกข์ทวีเวทนาชะตาตน
.
ต้องพบพานขานรับเกินปรับแก้
ต้องพ่ายแพ้เพราะพลาดสวาทหม่น
ต้องพร้อมพังนั่งเศร้าเงียบเหงากมล
ต้องเพราะผลเพรียกหาเพียงคว้าเงา
.
จึงร้อนรุมคลุ้มคลั่งเกินตั้งติด
พอกไฟพิษพ่นแสงร้อนแรงเร่า
จึงดั่งตายวายวาตม์มาบาดเอา
สุดบรรเทาทางใดจากไฟฟอน
.
แหงนมองฟ้าลาแก้วในแววเศร้า
กล่าวลาเขาข้ามโลกโฉลกหลอน
ก้มมองดินกินกลืนสะอื้นวอน
กล่าวลาก่อนกลกามที่ลามลน๚ะ๛


วันอังคารที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2560

น้อมส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย


น้อมส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย
.
“ธ สถิตในดวงใจ ไป นิ รั น ด ร”
สิ่งสะท้อนทางตรมอารมณ์หมอง
รับรู้ถึงหนึ่งวันคราหันมอง
น้ำตานองเนิ่นนานพร่าผลาญจินต์
.
“ธ สถิตในดวงใจ ไปนิรันดร”
ร่วมอาวรณ์วันไกลเหมือนใจสิ้น
สุดอาลัยไม่ปลงขาดองค์อินทร์
แทบด่าวดิ้นแดดับให้ลับลา
.
ธ สถิตในดวงใจ ไปนิรันดร
ภาพกาลก่อนเกี่ยวนำให้พร่ำหา
ภาพพระองค์ทรงงานเนิ่นนานมา
จริยวัตรแว่นฟ้าสง่าองค์
.
ธ สถิตในดวงใจ ไปนิรันดร
งานพ่อสอนสืบสมชื่นชมประสงค์
“พระราชดำริ” ตริตรองสนองลง
งาน “น้ำ” ส่งสมส่วนสู่ “สวน,นา”
.
ธ สถิตในดวงใจ ไปนิรันดร
ไม่คลายคลอนคงอยู่ด้วยรู้ค่า
จึ่งนอบนพอภิวันท์คำบัญชา
จะรักษาสืบทอดตลอดกาล
.
ธ สถิตในดวงใจ ไปนิรันดร
จำจากจรแจ้งใจถูกไฟผลาญ
เทิดทูนองค์ส่งสู่ประตูสราญ
สถิตสรวงแสนนานขอวานวอน๚ะ๛
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม
ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้
ข้าพระพุทธเจ้า “บ้านริมโขง” (นามแฝง)
ผู้ประพันธ์บทกลอน
.

วันพุธที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2560

รักห้อมล้อมเรียม


รักห้อมล้อมเรียม
.
ยินคำนำเอ่ยถ้อย........เรียมขาน
ไหวแว่วแววคำหวาน.....แห่ห้อม
คำใครไม่หวานปาน.......นางเอ่ย
เพียงแผ่วแนวหวานล้อม.....พี่ล้นเริงใจ
.
แสนไกลไยยิ่งแย้ม........ยินเสียง
เหมือนไม่ไกลสำเนียง......นิ่มน้อง
รัญจวนป่วนปานเคียง.......เรียงคู่ นางเอย
เอมอุ่นบุญคงคล้อง.....แต่งแต้มตามพรหม
.
แสนนมนานบ่งชี้........มีฝัน เราเอย
ยามเกริ่นเกินรำพัน............พี่นี้
ยืนยาวเท่าชีวัน.......ยังอยู่  นางเอย
หมายมุ่งปรุงชวนชี้......แต่น้องนางเดียว
.
จริง เจียวจึงจ่งแจ้ง........คำคอย
จริง ไม่เคยเลยถอย......ห่างเจ้า
จริง ใจใช่เลยลอย.......ลาห่าง
จริง จ่อรอเรียมเร้า......ส่งซึ้งตรึงทรวง๚ะ๛
บ้านริมโขง


วันจันทร์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2560

เมฆผ่านหวานครอง


เมฆผ่านหวานครอง
.
มีเมฆฝนหล่นแล้ว.......ลงดิน
แลชุ่มยามยลยิน.......แหล่งหล้า
สวยเสริมแต่งเติมจินต์.......ผินผ่อง
เหมือนอิ่มยามมองหน้า.......หนึ่งน้องนางนวล
.
ชวนชมสมส่งให้........หวานทรวง
ถึงเนิ่นนานปานลวง.........ไม่ท้อ
สานฝันมั่นเดือนดวง.........ยังเด่น
ไกลกี่ไมล์ใครพ้อ.........ห่อนให้ใครเคือง
.
เรืองเรืองแสงส่องฟ้า........คราอรุณ
วันใหม่แสงใสละมุน.......ส่องแล้ว
เพียงเราห่อใบบุญ........สานต่อ นางเอย
วันชื่นคืนงามแพร้ว.......แผ่พร้องครองเคียง
.
เสียงครืนครืนสั่งฟ้า .........ของฝน
เพียงไม่นานกาลกล..........ล่องแล้ว
ใดใดไม่เกินทน............เรามุ่ง หมายนา
สมสิ่งฝันวันแพร้ว.......ผ่องเพี้ยงเคียงหวาน๚ะ๛
☆ ☆ 

โคลงสี่สุภาพ ที่ลงเอก-โท ตามฉันทลักษณ์

บ้านริมโขง

วันอาทิตย์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2560

อีกเมื่อไหร่


อีกเมื่อไหร่
.
เมฆลดแสงแรงกล้าที่ถาโถม
ฟากโพยมยามเพ่งไม่เปล่งปลั่ง
เมฆมีส่วนชวนซับล้อมรับพลัง
ให้โลกยังอยู่เย็นลำเค็ญคลาย
.
เมฆคลุมฟ้าพาคนบ้างหม่นหมอง
ฟ้าขอร้องลอยเลื่อนให้เดือนฉาย
เมฆยังดื้อสื่อเสียงเข้าเรียงราย
ปั่นป่วนหมายเหมือนแค้นอัดแน่นทรวง
.
ไม่อาจหวังดั่งใฝ่สมใจหวัง
ไม่อาจสั่งสร้างสมชื่นชมสรวง
ไม่อาจมีที่หมายล้วนปลายลวง
ไม่อาจพ่วงโภชย์ผลเพื่อตนเอง
.
เหมือนต้องคอยฝอยลมมาห่มเห่
เหมือนร้อยเล่ห์เรียงปมมาข่มเหง
เหมือนอับปางทางฝันที่บรรเลง
เหมือนไม่เกรงกรรมตามช่างหยามเกิน
.
อุปสรรคปักหลอนเข้าค่อนขอด
ชีวิตบอดบังบาทให้ขาดเขิน
บาปมาหนุนบุญเลี่ยงมองเมียงเมิน
ยามก้าวเดินเดียวดายสลายแรง
.
อีกกี่ก้าวคราวครั้งถึงฝั่งฝัน
อีกกี่วันเวียนลดวันหมดแสลง
อีกกี่ทางวางหมายไม่คลายแคลง
อีกกี่แสงส่องฟ้า เมฆลาเลือน๚ะ๛
บ้านริมโขง