หน้าแรก

วันพุธที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2556

ยากแต่อยากเขียน

 
 
อยากเขียนกลอน ออกแนวหวาน สำราญจิต
อยากจะคิด เขียนคำอ้อน ตอนจีบสาว
อยากแต่งเติม เพิ่มความหมาย คล้ายเพชรวาว
อยากให้เห็น เป็นแสงดาว พราวนภา

แต่ยากนัก จักทำได้ อย่างหมายมั่น
ความสัมพันธ์ ปั้นอารมณ์ คมภาษา
ประสบการณ์ เป็นอีกอย่าง ที่วางมา
กว่าจะหา คำเหมาะสม ลมแทบกิน

เห็นสาวสวย เดินผ่านมา หาคำกล่าว
เหมือนมีกาว ปิดปากไว้ ใฝ่ถวิล...
แค่อยากถาม เธอไปไหน ให้ได้ยิน
กลับหมดสิ้น ความประหม่า เข้ามาแทน

ไม่กล้าพูด จึงอยากเขียน เรียนภาษา
จับปากกา หาจดหมาย ลายสวยแสน
บรรจงร่าง คำกลอนกานท์ หวานใส่แฟน
กลับคับแค้น แค่นไม่ออก...ยอกอุรา.
 
 

ตามที่เห็น..เช่นนี้เอง

 
 
ต้องร่วมรับ ชะตากรรม ที่ทำขึ้น
ไม่อาจขืน ยืนให้ต่าง ห่างไปไหน
สิ่งแวดล้อม ที่แลเห็น เป็นเช่นไร
ไม่ใช่ใคร ที่ไหนสร้าง เราต่างทำ

ตั้งแต่เกิด จวบวันตาย ทำลายนัก
ไม่ผ่อนพัก กลับมุ่งมาด ฟาดให้หนำ
ทั้งป่าไม้ ทั้งสายธาร งานประจำ
ต่างทำซ้ำ ทำให้สิ้น กลิ่นเดิมเดิม

จากป่าสวย ด้วยหลากพันธุ์  ร่วมกันชื่น
มีดาษดื่น สรรพสัตว์ วัดค่าเสริม
ว่าป่ารก เพราะเสือยัง หวังต่อเติม
คนก็เริ่ม เข้ารังแก แปรเปลี่ยนไป

ยึดทรัพย์สิน แผ่นดินชาติ ผูกขาดมั่น
เป็นแผ่นดิน ถิ่นของฉัน ไม่หวั่นไหว
จากป่าสูง เป็นป่าต่ำ ย่ำยีไป
ที่เกิดใหม่ สนามกอล์ป ชอบกันจัง

ส่วนแหล่งน้ำ ก็กระหน่ำ เป็นแหล่งเน่า
แย่งยึดเอา เฝ้าถือครอง ต้องสมหวัง
สร้างอาคาร ขวางทางน้ำ ห้ามไม่ฟัง
ถือว่าดัง ถ้าทำได้ ใครใหญ่เกิน

ความวิบัติ เกิดคราใด ได้แต่เศร้า
ล้วนต่างเฝ้า โทษฟ้าดิน สิ้นขวยเขิน
ไม่โทษคน ที่ก่อให้ ได้เผชิญ
กลับร่วมเดิน เชิญเหยียบย่ำ...ทำตามกัน.

ไข่..เป็นโล 1

 
 
เรื่องง่ายง่ายชายเก่งเร่งให้ยาก
สุดลำบากคนมีไข่ใจหม่นหมอง
เรื่องที่ทำมากมายคล้ายเนืองนอง
กลับมาจ้องทำไข่ไม่ได้การ

มันก็เป็นเช่นนั้นแต่ฉันเกิด
จะวางเปิดวางปิดผิดสถาน
ใครเขาขายเป็นฟองมองตามงาน
ให้ลูกหลานซื้อง่ายจ่ายราคา

คิดได้ไงไม่รู้ดูน่าขัน
เมื่อถึงวันท่านแท้แก้ปัญหา
กลับควักไข่มาเล่นเย็นอุรา
กลางสายตามวลชนจนคนเฮ

อาจด้วยเหตุที่ใครยังไม่รู้
น้ำหนักไข่มีอยู่ดูสนเท่ห์
เลยจับวางตาชั่งไม่ลังเล
หนึ่งชามเปลสองใบใครเกินกัน..

ไข่..เป็นโล

 
 
สุดดีใจไข่ไทยได้เป็นข่าว
คนเขากล่าวถึงกันลั่นตลาด
มีความคิดความเห็นเป็นไม่พลาด
จากประกาศรัฐไทยเรื่องใหญ่โต

ใครไปซื้อไหมหนาไข่ตาชั่ง
สะดวกดังคำอ้างอย่างอักโข
หรือ-ยุ่งยากอย่างไรใคร่บอกโชว์
ไข่ใบโตใบนิดคิดอย่างไร

ส่วนผมว่าต่อไปไข่ควรแยก
อาจจะแปลกแยกออกบอกสีใส
เป็นไข่ขาวไข่แดงแบ่งกันไป
ซื้อเท่าไรชั่งได้ขายเป็นโล

เช่นอย่างผมชอบกินถวิลหา
ตั้งแต่เป็นหนุ่มมาหาเป็นโหล
เจาะไข่แดงเลี้ยงกายามาจนโต
ซื้อไข่โลก็เจาะจงตรงไข่แดง

หากบางท่านชอบไข่ขาวดูวาวใส
ก็ตรงไปสั่งเอาเขาไม่แฝง
เขาไม่ปนอื่นมาอย่าคลางแคลง
เพราะไข่แดงผมเหมาเอาคนเดียว

จึงแต่นี้แม่ค้าพากันตอก
พากันบอกแยกไข่ไม่เฉลียว
แยกไข่ขาวจากไข่แดงแย่งกันเชียว
แต่ผมเสียวให้ตอกไข่ผม...ไม่อาววว.
 

ฉัน..ไม่เป็นไร

 
 
ไม่ยอมรับความจริงสิ่งที่ผ่าน
ไม่ยอมรับวันวานผ่านมาแล้ว
ไม่ยอมรับวันนี้ไร้วี่แวว
ไม่ยอมรับคลาดแคล้วแก้วกัลยา

ต้องหลอกตนหลอกใครทำไมเล่า
เมื่อตัวเราแยกทางร้างโหยหา
จะเหลือใดให้หวังให้สั่งลา
แม้ชีวาแทบดับกับอาวรณ์

ถึงหลอกใครหลอกได้แต่ใจนี้
ยากเกินที่ล้างลบจบทอดถอน
ยังตามติดครวญใคร่ให้อาทร
จะกินนอนหลอนหลอกซอกใจตน

“ไม่เป็นไร” ใครกัน กัดฟันพูด
ยากพิสูจน์จริงใจใครสับสน
เศร้าใช่ไหม...รักแตก แหลกกมล
“ไม่เป็นไร” ใจป่น....ล้นระทม.
 

เพื่อน

 
 
เพื่อนสำคัญท่านนี้ที่ฉันเกลียด
ทำฉันเครียดฉันล้ามาข่มเหง
จะกินนอนนั่งเดินเกินวังเวง
เพื่อนบรรเลงเพลงเหงาเคล้าทุกยาม

เพื่อนสำคัญท่านนี้ที่ฉันเบื่อ
พบทุกเมื่อเหลือเวลามาหยาบหยาม
น้ำตาเอ่อเหม่อมองท้องฟ้าคราม
แสงแวววามนั่นแหละเขาเฝ้าจ้องมอง

เพื่อนสำคัญท่านนี้ที่ฉันหลง
ฉันงวยงงหลงพร่ำทำฉันหมอง
ฉันอยู่ไหนตามไปแม้ไม่ปอง
ฉันขอร้อง...ให้ห่างบ้าง...บางเวลา.

ใครบัญชา

 
 
เป็นโชคร้ายปลายทางไม่สร้างต่อ
มองแล้วพอเดินข้ามตามเสาะหา
แต่พอใกล้พึ่งทราบภาพลวงตา
ต้องเหว่ว้ายืนงงตรงปลายทาง

เพราะเหตุใดภาพหลอนจึงย้อนนัก
พบแต่ปลักหลักลวงบ่วงมาขวาง
ด้วยเผลอไผลไม่ซึ้งถึงคนวาง
เงาไม่จางยังฝ่าระอาใจ

เพราะต้องการมากเกินเลยเดินพลาด
ช้ำมิอาจแก้คืนฝืนหวั่นไหว
สุดสงสารตัวเราเขลาเกินไป
หวังยาวไกลแต่จบพบทางตัน

ใครบัญชา...ฟ้าหรือเรา...เขลาหรือเซ่อ
ต้องมองเหม่อ...เพ้อพรอดพร่ำ...ค่ำคืนฝัน
ต้องโทษว่า...น่าอดสู...รู้ไม่ทัน
ที่เห็นนั่น...ภาพลวงตา...เราพร่าเอง.
 

แยกหัวใจ

 
เป็นเค้าลางอันตรายหมายลาจาก
เป็นเหมือนอยากจากไกลไฟรักผลาญ
เป็นอะไรในใจไม่เบิกบาน
เป็นเหมือนการได้ลาพาชื่นทรวง

นับเป็นความต้องการเมื่อหวานหมด
นับเป็นความรันทดหมดแดนสรวง
นับเป็นความแพ้พ่ายสลายดวง
นับเป็นความหลอกลวงหน่วงชะตา

เก็บหัวใจที่แยกแตกเป็นซีก
ยามเมื่อปลีกเปลี่ยวไปไกลห่วงหา
อุทาหรณ์สอนตนหม่นอุรา
เหตุรักลาแรมร้างเพราะอย่างไร

มีชีพยังบังเงาเคล้าทุกข์โศก
วิปโยคโบกหาน้ำตาไหล
กลืนแต่ขมบ่มเศร้าเจ้าหัวใจ
ร้อนทรวงในใจแตกแยกระทม

จากวันนี้ไม่มีเจ้าอีกแล้ว
ไม่มีแก้วใสส่องมองขื่นขม
เหลือเพียงใจซีกข้าพาตรอมตรม
ต้องเก็บงมเก็บงำระกำทรวง

ณ ตรงนี้ที่พบ..ที่จบรัก
ณ ตรงนี้ที่พัก..รักสุดหวง
ณ ตรงนี้ที่ชื่น..ไร้อื่นควง
ณ ตรงนี้ที่ลาล่วง...แยกดวงใจ.